ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 80.26 จุด หลังตัวเลขว่างงานสหรัฐร่วงเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 11, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) ซึ่งเป็นสถิติที่ปิดบวกติดต่อกัน 5 วัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงในสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ การที่บริษัทพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่ปรับตัวลดลง ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กให้คึกคักขึ้นด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 80.26 จุด หรือ 0.84% แตะที่ 9,627.48 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 10.77 จุด หรือ 1.04% แตะที่ 1,044.14 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 23.63 จุด หรือ 1.15% แตะที่ 2,084.02 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.49 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 23 ต่อ 7 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.45 พันล้านหุ้น

เดวิด บีอันโค หัวหน้านักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากแบงค์ ออฟ อเมริกา-เมอร์ริล ลินช์ ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นทันทีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงสู่ระดับ 550,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 560,000 ราย ขณะที่การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ และบางภูมิภาคฟื้นตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 ในสหรัฐได้ยุติลงแล้ว

"เฟดเกือบทั้ง 12 สาขารายงานตรงกันว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจ 'มีเสถียรภาพ' ขณะที่โครงการนำรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น ส่วนภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลาง โดยยอดขายเซมิคอนดัคเตอร์และสินค้าไอทีประเภทอื่นๆในเขตซานฟรานซิสโกปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์ในริชมอนด์ แอตแลนต้า ชิคาโก และมินเนอาโพลิส เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดการผลิตสินค้าเวชภัณฑ์ในภูมิภาคส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้น" รายงานของเฟดระบุ

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากเรียลตี้แทรค อิงค์ ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ให้บริการข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ รายงานว่า จำนวนบ้านถูกยึดในสหรัฐประจำเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 18% แตะที่ 358,471 หลัง ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน เนื่องจากอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ทำให้กลุ่มเจ้าของบ้านไม่สามารถชำระค่าผ่อนบ้านและดอกเบี้ยได้

ทั้งนี้ หุ้นยาฮูปิดบวก 4.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ซีเคียวริตีส์-เมอร์ริล ลินช์ รีเสิร์ชปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นยาฮู ส่วนหุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น 6.7% หลังจากเจพีมอร์แกนปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของยูเอแอล คอร์ป และยูเอส แอร์เวยส์ กรุ๊ป อิงค์

นอกจากนี้ หุ้นพีแอนด์จีดีดตัวขึ้น 4.2% หุ้นมอนซานโต้ปิดลบ 5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ