Asia Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 14 กันยายน 2552

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2009 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ จากกระแสความวิตกเรื่องแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4

ดัชนีเวทเต็ดปิดปรับตัวลง 80.19 จุด หรือ 1.09% แตะ 7,256.95 จุด หลังจากที่เดินหน้าคึกคักในสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 2.56%

-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ร่วงลง หลังจากที่ตลาดหุ้นในเอเชียอ่อนตัวลง ประกอบกับมีแรงขายเข้ามาเพราะความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นที่มากเกินไปหลังจากที่ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือน

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลบ 65 จุด หรือ 1.4% แตะ 4,531.1 จุด

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นปิดร่วงลงกว่า 200 จุดในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มส่งออกหลังจากค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น (ดีพีเจ) จะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพุธ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 242.27 จุด หรือ 2.32% แตะที่ 10,202.06 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ ท่ามกลางปัจจัยลบจากแรงเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีคอมโพสิตปรับตัวลดลง 16.79 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ระดับ 1,634.91 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ 422.05 ล้านหุ้น มูลค่า 6.6 ล้านล้านวอน (5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 3,000 จุดแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากที่ดัชนีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3,046.97 จุด เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 36.95 จุด หรือ 1.24% ปิดที่ 3,026.74 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้น บวก 288.8 จุด พุ่งขึ้น 2.39% แตะ 12,385.06 จุด

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้หลังนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อทำกำไร เนื่องจากไม่มั่นใจว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นอีกหลังจากที่พุ่งสูงมาตลอดในระยะหลัง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วง 229.22 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 20,932.20 จุด มีมูลค่าการซื้อขายลดลงแตะ 5.087 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 6.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ