นายวีระ บูรพชัยศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ (METRO) ยอมรับอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตร 2-3 ราย มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดสรุปปี 53 ว่ารูปแบบการเป็นพันธมิตรจะเป็นแบบใด แต่ตอนนี้มี 3 แนวทางให้เลือก คือ เข้าถือหุ้นใน METRO, ตั้งบริษัทใหม่ร่วมกันเพื่อทำโครงการ หรือ การเพิ่มทุน
"เรื่องพันธมิตรก็คุยๆ ดูๆ อยู่ 2-3 ราย มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้สรุปเพราะเงื่อนไขยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทั้งสัดส่วนการถือหุ้นและราคา ซึ่งเราก็ไม่รีบ คุยไปเรื่อยๆ เพราะดูเหมือนเศรษฐกิจเพิ่งจะเริ่มฟื้น ถ้าเศรษฐกิจกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ผู้ร่วมทุนก็อาจจะมีความมั่นใจสูงขึ้น เงื่อนไขต่างๆ ก็อาจจะน่าสนใจมากขึ้น โดยคาดว่าอาจจะเป็นปีหน้าถึงจะสรุปเรื่องพันธมิตร"นายวีระ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายวีระ กล่าวว่า พันธมิตรที่เราต้องการมีทั้งรูปแบบการเงินที่แข็งแกร่ง ความชำนาญในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศแต่ต้องการมาทำธุรกิจในเมืองไทย เนื่องจากเราเองต้องการขยายฐานทุน และดึงมุมมองเรื่องการบริหารการจัดการ ประสบการณ์การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ซึ่งตลาดมีขนาดใหญ่กว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย ซึ่งอาจจะมีเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาให้บริษัทได้ปรับมาใช้กับการทำตลาดในบ้านเรา
อย่างไรก็ตาม มองว่า แนวทางการเพิ่มทุนอาจไม่จำเป็นสำหรับบริษัท เนื่องจากบริษัทยืนยันฐานะการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง หนี้สินลดลงเรื่อยๆ ปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี 52 จะลดเหลือ 1.3 พันล้านบาท ขณะที่โครงการต่างๆ ก็ทยอยปิดการขายเรื่อยๆ
"เรามองว่าเรื่องการเพิ่มทุนอาจไม่จำเป็น เพราะหนี้สินเราลดลงเรื่อยๆ ตอนนี้หนี้สินเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงินอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลงจาก 1.8 พันล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี 52 หนี้สินจะลดลงเหลือ 1.3 พันล้านบาท นอกจากนี้ยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ สต็อกก็ทยอยลดลงเรื่อยๆ และถ้าจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เสร็จเมื่อไหร่ ก็จะสามารถเคลียร์หนี้ทั้งหมดของทั้งบริษัทได้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นก็จะมีสภาพเงินสดเหลืออีกเยอะ จะเอาไปทำอะไรก็ได้ เอาไปพัฒนาโครงการต่อก็ได้"นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวถึงแผนการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 2.5 พันล้านบาท คาดว่าจะสรุปประมาณต้นปี 53 โดยเบื้องต้นมีแผนจะนำโครงการสาทร วิสต้า แบ็งคอก แมริออท เอ็กเซ็ฌกคิวทีฟ อพาร์ตเมนต์ โอนขายเข้าเป็นสินทรัพย์
ทั้งนี้ คาดหวังเม็ดเงินจากการขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะนำมาพัฒนาโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อ ซึ่งรวมทั้งโครงการเมโทร อเวนิว สุขุมวิทที่ปัจจุบันยังชะลอการพัฒนา แต่ยืนยันโครงการดังกล่าวยังเป็นทรัพย์สินของบริษัท ไม่ได้มีการขายโครงการไปให้ใคร แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีผู้มาเสนอซื้อเพื่อนำไปพัฒนาต่อก็ตาม
สำหรับผลการดำเนินงานปีนี้ นายวีระ กล่าวว่า ยังมีลุ้นในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ครึ่งปีหลังอาจจะได้เห็นกำไรจาก ครึ่งปีแรกที่มีผลขาดทุนอยู่ประมาณ 94 ล้านบาท เนื่องจากล่าสุดเพิ่งจะปิดการขายโครงการเซ็นหลุยส์ แกรนด์เทอเรส มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาทไปแล้ว และกำลังจะปิดการขายโครงการบ้านรวิภา สุขุมวิท 103 มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาทในเร็วๆ นี้
เมื่อเวลา 10.51 น. หุ้น METRO บวก 22.97% มาที่ 1.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท