บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทใหม่รองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน ตอบสนองนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ล่าสุดให้ บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500 ล้านบาท และให้เข้าถือหุ้น 30% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 ของบริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด เมื่อวันที่ 14 ก.ย.52 ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุน เป็นจำนวน 500,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 50,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เพื่อใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงการ และให้บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด เรียกชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนงวดแรกจำนวน 125,000,000 บาท และให้ทยอยเรียกชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนตามความจำเป็นในการลงทุนโครงการต่อไปและภายหลังการเพิ่มทุน บริษัทฯ ยังคงดำรงสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในบริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด
อนึ่ง การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.52 ได้มีมติเห็นชอบให้จัดโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้ชัดเจนโดยให้ บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนต่อไปในอนาคต ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารและการจัดการด้านการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ
และได้มีมติอนุมัติให้ RATCH ขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ถืออยู่ใน บริษัท ซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 9,000,000 หุ้น ให้กับ บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ในราคาเดียวกันกับราคาที่บริษัทฯ ได้ชำระเงินแล้ว 58,000,000 บาท โดยบริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด มีภาระผูกพันที่จะต้องจ่ายเงินค่าหุ้นส่วนที่เหลืออีก 54,500,000 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและให้บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด รับโอนเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิทธิที่บริษัทฯ มีในบริษัท ซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ด้วย
บริษัทฯ ได้จัดทำเอกสารการซื้อขายหุ้น รวมทั้งดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้รับการชำระเงินค่าหุ้นเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ย.52
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัทในครั้งนี้ จะทำให้การบริหารด้านการลงทุนของบริษัทมีความชัดเจน และสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น โดยการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนจะมี บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด เป็นกลไกการลงทุนที่สำคัญของบริษัท
"การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนต่อไปในอนาคต ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายการเติบโตในธุรกิจนี้อีกประมาณ 100 เมกะวัตต์ภายในปี 59" นายนพพล กล่าว
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ลงทุนโดย บริษัท ซัสเทนเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 60% บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ถือหุ้นสัดส่วน 30% และผู้ถือหุ้นรายย่อยมีสัดส่วนการถือหุ้น 10%
โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 60 เมกะวัตต์ อายุโครงการ 25 ปี มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท และเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณปลายปี 52 คาดว่าจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ในปี 2554 พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ประมาณ 125 ล้านหน่วยต่อปี
ลักษณะของโครงการเป็นทุ่งกังหันลม (Wind Farm) ประกอบด้วยกังหันลมจำนวน 30 ชุดแต่ละชุดมีกำลังการผลิตติดตั้ง 2 เมกะวัตต์ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาภาวะเรือนกระจกอันเกิดการลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 63,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลจากน้ำมันเตาได้ประมาณ 32 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นเงินประมาณ 560 ล้านบาท หรือเทียบเท่าการใช้ก๊าซธรรมชาติประมาณ 1 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี คิดเป็นเงินประมาณ 240 ล้านบาท