พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น GSTEEL 15 รายการ จำนวน 568,873,585 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 301.50 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.53 บาท และมีบิ๊กล็อตหุ้น GSTEEL-F 1 รายการ จำนวน 14,900,000 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 7.90 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.53 บาท
ขณะที่ราคาหุ้น GSTEEL ปิดตลาดวันนี้ที่ 0.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท(+9.80%)มูลค่าซื้อขาย 523.03 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.51 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.58 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.50 บาท
ทั้งนี้ รายการบิ๊กล็อตหุ้น GSTEEL และ GSTEEL-F รวมกันจำนวน 583.77 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.24% ของทุนชำระแล้วที่มี 13,760.44 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
แหล่งข่าวจากวงการเหล็ก เปิดเผยว่า การขายบิ๊กล็อตของหุ้น บมจ.จีสตีล(GSTEEL)ครั้งนี้เป็นการโยกหุ้นของกลุ่มลีสวัสดิ์ตระกูล เพื่อจัดพอร์ตของคนในตระกูลให้ชัดเจน ซึ่งกลุ่มลีสวัสดิ์ตระกูลถือหุ้น GSTEEL สัดส่วน 52-53% และเชื่อว่านายสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ต้องการจะลดบทบาทตัวเอง และผลักดันให้คนรุ่นใหม่เข้ามาแทน
เนื่องจากขณะนี้ในแงธุรกิจของ GSTEEL ไม่ได้เดินหน้าไปมากนัก และภาระสำคัญที่สุดของบริษัทเป็นเรื่องหนี้สินที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่ 80-90% เป็นหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้มีวงเงินหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในช่วงต้นปี 53 จำนวน 8,300 ล้านบาท
"GSTEEL ตอนนี้ต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว เพราะหนี้จะครบดีลต้นปีหน้า 8 พันกว่าล้านบาท เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา เท่าที่เรารู้มา โดยเฉพาะกลุ่มลีสวัสดิ์ตระกูลจะมีการขยับขยายว่าจะให้ใครเป็นผู้บริหาร และเขาก็กำลังติดต่อ IB ขนาดยักษ์จากอเมริกา มาทำ Restructure หนี้ อย่าเพิ่งไปพูดถึงการไปหานักลงทุนอะไรเลย"แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ ก็ต้องติดตามดูว่า บริษัทจะมีการปรับโครงสร้างอย่างไร ขณะเดียวกันนายสมศักดิ์ก็พยายามติดต่อ นิวคอร์ จากสหรัฐ เข้าซื้อหุ้นบริษัท รวมทั้งกลุ่มอาเซลอร์ มิตตาล จากอินเดีย และ กล่มมิตซุยจากญี่ปุ่น
"คนในวงการ มองว่าถ้าผู้บริหารหลักยังคงเดิมคงจะยากในการหาพันธมิตรใหม่ รวมทั้งการติดต่อกับสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ ยกเว้นว่าจะ prove ให้สถาบันการเงินไว้เนื้อเชื่อใจและให้การสนับสนุน...ตอนนี้คุณสมศักดิ์ยังอยู่ในประเทศ แต่ได้ยินว่าอาทิตย์หน้าจะบินไปญี่ปุ่น"แหล่งข่าว กล่าว