ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) จากแรงขายที่ส่งเข้าถ่วงหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์ และแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารเนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่ารอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ จะระดมทุนด้วยการขายหุ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 38.53 จุด หรือ 0.74% แตะที่ 5,134.36 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,107.71-5,182.23 จุด
อังกัส แคมป์เบลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Spreads ในลอนดอนกล่าวว่า นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 2.33 ดอลลาร์ หรือ 3.23% ปิดที่ 69.71 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และเนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง แม้มีการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วจะลดลงก็ตาม
หุ้นเวแดนต้า ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ภายใต้การควบคุมของนายเอนิล อการ์วัล ปิดร่วง 3.5% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ “neutral" จากเดิมที่ระดับ “buy" หุ้นคาซัคมิส ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองของคาซัคสถาน ปิดลบ 3.3% หลังจากซิตี้กรุ๊ปลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ “hold" จากระดับ “buy"
หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงหลังจากมีการคาดการณ์ว่ารอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ จะระดมทุนผ่านการขายหุ้น โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 5.2% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ปิดร่วง 2.8% และหุ้นไอริช แบงค์ ปิดลบ 3.3%