นายสมชาย ตรีรัตนนุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด ในเครือ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยว่า การได้รับอนุมัติเชื่อมต่อวงจรระหว่างประเทศกับผู้ให้บริการต่างประเทศเพื่อเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ทภูมิภาคเพิ่มอีก 5 จุด ใน 4 ประเทศเพื่อนบ้าน คือ ลาว พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย จาก คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ทำให้จัสเทลฯ เป็นเอกชนรายแรก ที่เชื่อมต่อวงจรดังกล่าวข้ามพรหมแดนระหว่างประเทศได้ครบถ้วน
การได้รับอนุญาตดังกล่าว ส่งประโยชน์ภาพรวมต่อผู้บริโภคที่จะสามารถใช้ช่องสัญญาณ (แบรนด์วิธ)ได้เพิ่มขึ้น ทั้งลดต้นทุน ช่วยทำให้ประเทศไทยมีการเชื่อมต่อออกต่างประเทศมากขึ้นและได้รับผลกระทบน้อยลงในกรณีเส้นทางหลักได้รับความเสียหาย และยังเป็นการรับแนวทางเปิดเสรีอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ไปต่างประเทศต่อไป สอดคล้องกับนโยบายยุทธศาสตร์ของจัสเทลฯ ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นฮับ หรือศูนย์กลางการสื่อสารของภูมิภาคเอเชีย
“การอนุญาตให้เชื่อมต่อดังกล่าว ประกอบด้วยจุดเชื่อมต่อ 5 จุด ใน 4 ประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย ทั้งนี้การเชื่อมต่อดังกล่าวเป็นการเพิ่มจากโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออฟติก) ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งในการลงทุนช่วงปีแรก จัสเทลฯ จะเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีโครงข่ายอยู่แล้วในแต่ละประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยโดยจะลงทุนเฉพาะการวางไฟเบอร์ออฟติกข้ามไปยังชายแดนเชื่อมต่อเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 20 ล้านบาท โดย 4 จุดแรกใน ลาว กัมพูชา มาเลเซีย จะแล้วเสร็จภายในปี 2552 ส่วนที่พม่าจะแล้วเสร็จต้นปีหน้า"
ทั้งนี้ จุดเชื่อมต่อดังกล่าว ยังเป็นจุดที่สามารถไปเชื่อมต่อกับโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำในสิงคโปร์ จีน ฮ่องกง และเวียดนาม เพื่อกระจายจุดเชื่อมต่อไปยังอีกหลายประเทศทั่วโลก สำหรับในอนาคตอันใกล้นี้ จัสเทลฯ ยังคงเร่งเดินหน้าพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุดของทุกกลุ่มเป้าหมาย และมีโครงการพัฒนาการวางโครงข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการขออนุญาตจาก กทช. ในการเปิดเสรีดังกล่าว ที่จะนำประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารของภูมิภาคอย่างแท้จริง.