บริษัทอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บมจ.ศุภาลัย(SPALI) บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์(QH) บริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือชาญอิสระ(CI) กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมอคานโด กลุ่มวอเตอร์ฟอร์ด เป็นต้น ตอบรับเข้าร่วมงานไทยแลนด์ คอนโด เอ็กซ์โป 2009 ระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค.52 ที่ Suntec Singapore International Convention and Exhibition Center ประเทศสิงคโปร์ โดยงานดังกล่าวถือเป็นการบุกตลาดสิงคโปร์อย่างจริงจัง
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ จับมือกับสมาคมอาคารชุดไทยจัดงานไทยแลนด์ คอนโด เอ็กซ์โป 2009 โดยงานดังกล่าวถือเป็นการบุกตลาดสิงคโปร์อย่างจริงจัง จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทนำโครงการไปทำโรดโชว์เพียง 1-2 โครงการต่อครั้งเท่านั้น
ปัจจุบันมีบริษัทที่ตอบรับเข้าร่วมงานในครั้งนี้หลายแห่ง อาทิ SPALI QHบริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือชาญอิสระ กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมอคานโด กลุ่มวอเตอร์ฟอร์ด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านพักในต่างจังหวัดเข้าร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็น โครงการที่หัวหิน พัทยา และภูเก็ต
“ภาวะเศรษฐกิจของสิงคโปร์ยังอยู่ในภาวะทรงตัว แต่มีทิศทางที่ดีขึ้นทำให้นักลงทุนสิงคโปร์เริ่มที่จะมองหาการลงทุนใหม่ ๆ ขณะเดียวกันคอนโดมิเนียมในประเทศไทยในปัจจุบันถือว่ามีราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในสิงคโปร์กว่า 5-6 เท่าตัว ประกอบกับช่วงที่เราจัดงานจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการซื้อที่อยู่อาศัยและการลงทุนของชาวสิงคโปร์ทำให้น่าจะช่วยให้บรรยากาศของงานมีความคึกคักมากขึ้น" นายกิติศักดิ์ กล่าว
นายกิติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การจัดงานในครั้งนี้จะมีโครงการคอนโดมิเนียม รวมถึงบ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ท เข้าร่วมออกงานประมาณ 30 โครงการ ถือว่าเป็นการจัดงานด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่มีจำนวนโครงการเข้าร่วมงานมากที่สุด เพราะโดยปกติที่สิงคโปร์จะมีผู้ประกอบการเข้าไปเปิดตลาด ไม่มากนัก
นอกจากนี้ภายในงานดังกล่าวจะเพิ่มความน่าสนใจ ด้วยการจัดงานสัมมนาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ทั้งในเรื่องของกฎหมายการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม ภาพรวมของเศรษฐกิจไทย เรื่องของการขอสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และที่สำคัญผู้ที่เข้าร่วมชมงานยังจะได้รับแผนที่คอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดฟรี เพื่อใช้ประกอบการดูทำเลที่ตั้งของโครงการอีกด้วย
นายกิติศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังของปี 53 ภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังซื้อเริ่มทยอยกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักลงทุนสิงคโปร์ ที่ยังให้ความสนใจคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
บริษัทฯมีแผนงานที่จะขยายตลาดในประเทศสิงคโปร์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาพันธมิตรราย ใหม่ๆ ในประเทศสิงคโปร์ ผ่านเครือข่ายของเซ็นจูรี 21 อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อที่จะนำโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทยไปเปิดตลาดในสิงคโปร์ให้มากขึ้น ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับพันธมิตรทางด้านธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อหาช่องทางในการเปิดตลาดให้มากขึ้น โดยจะมีการเปิดสำนักงานที่สิงคโปร์เพิ่มขึ้นในปี 52 เน้นการให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการ เจาะตลาดในประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันจากทีมงานที่มีอยู่คาดว่าจะสามารถรองรับโครงการที่สนใจได้ไม่ต่ำกว่า 25-30โครงการ