นายกฯ ร่วมโรดโชว์นิวยอร์กชี้แจงนักลงทุน ตลท.มองแนวโน้มเงินไหลเข้าเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 23, 2009 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ร่วมธนาคาร UBS จัด Investor Forum พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจผู้ลงทุนที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อ 21 ก.ย.เผยผู้ลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย โดยส่วนหนึ่งกลับเข้ามาลงทุนแล้ว และมีแนวโน้มที่จะนำเงินกลับเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางมาร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 64 ณ นครนิวยอร์ก ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับตลท.ในงาน Investor Forum โดยเป็นองค์ปาฐก และมีผู้ลงทุนต่างชาติกว่า 60 ราย จาก 25 กองทุนและบริษัทหลักทรัพย์เข้าร่วมงาน โดยผู้ลงทุนกลุ่มนี้มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการโดยรวมสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 34 ล้านล้านบาท

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับผู้บริหารกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมงานว่า เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน รัฐบาลจึงต้องเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการเพิ่มความแข่งขันของไทยต่อไป โดยเฉพาะการลงทุนในเพื่อพัฒนาระบบขนส่ง การจัดการทรัพยากรน้ำ และด้านศึกษา

นายอภิสิทธิ์ เน้นว่า อยากเห็นประเทศไทยเป็น smart investor choice หรือประเทศที่นักลงทุนเลือก ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการทั้งด้านนโยบายและแผนปฏิบัติการอื่น ๆ ที่สำคัญเพื่อประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกต่อการลงทุน

สมาชิกวุฒิสมาชิก Phil Gramm ในฐานะรองประธานธนาคาร UBS ด้านวานิจธนกิจ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวแล้ว โดยมีประเทศในกลุ่มเอเชีย รวมทั้งไทยเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ" ธนาคาร UBS ในฐานะวานิชธนกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ยืนยันที่จะดำเนินธุรกิจและเป็นพันธมิตรกับประเทศไทยต่อไป

นางภัทรียา กล่าวอีกว่า จากการพบกับผู้ลงทุนในนิวยอร์กครั้งนี้ ได้รับทราบว่าผู้ลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย และส่วนหนึ่งก็ได้กลับเข้ามาลงทุนแล้วในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะนำเงินกลับเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น

สำหรับคำถามที่ผู้ลงทุนที่เข้าร่วมงานสนใจ เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการลงทุนภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง และสอบถามเกี่ยวกับพัฒนาการทางการเมืองของไทย ซึ่งผู้ลงทุนก็ได้รับข้อมูลและคำอธิบายจากนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ