PRINเร่งสรุปซื้อที่ดินเพิ่มโครงการปีนี้ ลุ้นโอนคอนโดฯดันรายได้ทะลุเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 24, 2009 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระ ศรีชนะชัยโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ.ปริญสิริ(PRIN)เปิดเผย"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทกำลังเจรจาซื้อที่ดินเพิ่ม 1 แปลงย่านเพชรเกษมเพื่อนำมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ"ทาวน์โฮม"ในช่วงปลายปีนี้หากสามารถสรุปการเจรจาได้ภายในเดือน ก.ย. ซึ่งจะทำให้จำนวนโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4 โครงการ จากแผนเดิม 3 โครงการ

"ตอนนี้ผมกำลังดูว่าที่ดินที่เราซื้อนั้นจะสามารถโอนได้ในเดือน ก.ย.สักกี่แปลง แต่เท่าที่รู้ 2 แปลงไม่น่าจะมีปัญหา แต่ที่ช้าเพราะที่ดินมีหลายเจ้าของ กว่าจะตกลงได้ และถ้าทันก็จะเร่งมาพัฒนาในช่วงที่เหลือปลายปีนี้ 1 แปลง แต่ถ้าไม่ทันก็ไม่เป็นไรเพราะเดิมเราวางแผนพัฒนาที่ดิน 3 แปลงนั้นไว้ในไตรมาส 1 ปีหน้าอยู่แล้ว"นายวีระ กล่าว

สำหรับแผนงานก่อนหน้านี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,680 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 3-4/52 จะเปิดตัวโครงการกัลปพฤกษ์ มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท และโครงการบ้านปริญวัชรพล มูลค่า 300 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4/52 จะเปิดตัวโครงการปริญลักษณ์ ไลท์ สามัคคี มูลค่า 180 ล้านบาท

นายวีระ กล่าวว่า หากสามารถเจรจาตกลงซื้อทีดินแปลงดังกล่าวได้ ก็จะทำให้บริษัทใช้เงินซื้อที่ดินใหม่ในปีนี้เพิ่มเป็น 300-400 ล้านบาท จากที่ตั้งงบไว้ทั้งหมด 500-800 ล้านบาท และขณะนี้ใช้ไปเพียง 200-300 ล้านบาท

และ มีความเป็นไปได้ว่าในปีหน้าบริษัทจะใช้เม็ดเงินซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นมากกว่า 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ เพราะมองว่าสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ที่จะค่อยๆ ดีขึ้นและความต้องการที่อยู่อาศัยก็มีมากขึ้น ทำให้บริษัทวางแผนงานในเบื้องต้นที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 5-6 โครงการมากกว่าจำนวนโครงการใหม่ในปีนี้ โดยจะเน้นโครงการในแนวราบที่บริษัทมีความถนัด

ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายปีนี้บริษัทก็จะพยายามเร่งการขายและโอนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ โครงการย่านพหลโยธิน 37 ซึ่งยังมีสต็อกเหลืออยู่ และ โครงการสมาร์ทคอนโด พระราม 2 ซึ่งเป็นโครงการที่มีระดับราคาไม่สูงมาก บริษัทจะทำโปรโมชั่นในช่วงปลายปีเพื่อเรงระบายสต็อก ซึ่งจะทำให้บริษัทมี Cash flow หมุนเวียนเพิ่มขึ้น

นายวีระ กล่าวว่า ปัจจุบัน ยอดขายของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาส 3/52 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/52 เห็นได้ชัดจากปริมาณผู้ที่เข้ามาชมโครงการและตัดสินใจซื้อ และบริษัทยังประเมินในเบื้องต้นว่า 3 ไตรมาสที่ผ่านมาจะมียอดรับรู้รายได้รวมประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท

ดังนั้น เป้าหมายยอดรับรู้รายได้ปีนี้ที่ 4.5 พันล้านบาทไม่น่าจะยาก โดยแบ่งเป็นรายได้จากบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 2.0-2.5 พันล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2.0-2.5 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม หากสามารถโอนโครงการพหลโยธิน 37 ได้หมดก็อาจจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้สูงขึ้นจากเป้าหมาย ขณะที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10% เช่นเดียวกับที่ทำได้ในครึ่งปีแรก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ