ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 5,100 จุดเป็นวันแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐร่วงลงเกินคาด และข่าวที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 60.10 จุด แตะที่ 5,079.27 จุด โดยดัชนีปิดต่ำกว่าระดับ 5,100 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์
อังกัส แคมป์เบล นักวิเคราะห์จากบริษัท Capital Spreads ในลอนดอน กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงอย่างมาก หลังจากเฟดออกแถลงการณ์ว่าจะชะลอการเข้าซื้อตราสารหนี้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการชะลอการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดการเงิน ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจทำให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาดอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.ร่วงลง 2.7% แตะระดับ 5.10 ล้านยูนิต จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 5.24 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.35 ล้านยูนิ
หุ้นสายการบินบริติช แอร์เวยส์ ปิดร่วง 4.3% หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ “hold" จากเดิมที่ระดับ “buy" หุ้นสายการบินไรอันแอร์ ปิดลบ 3.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้