โบรกฯแนะ"ซื้อ/ซื้อเมื่ออ่อนตัว/ถือ"SVI รอฟื้นตัวปีหน้า ออเดอร์ทยอยเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 25, 2009 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ มองบมจ.เอสวีไอ(SVI)จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4/52 ภาพรวมธุรกิจดูดีขึ้น แม้ว่าในปีนี้แนวโน้มรายได้-กำไรจะลดลงจากปีก่อน มองข้ามช็อตเชื่อภาวะการฟื้นตัวจะเห็นได้อย่างชัดเจนในปีหน้า ตามคำสั่งซื้อที่เพิ่งเริ่มทยอยเพิ่มเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ตามหลังการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ โบรกเกอร์บางรายยังลุ้นครึ่งปีหลังอาจปันผลเพิ่มได้อีกเล็กน้อย ขณะที่บางรายมองว่าคงยากเพราะจ่ายไปเกิน 100% ของกำไรแล้ว อาจต้องรอไปเป็นปีหน้า

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บล.บีฟิท              ซื้อ               3.00
          บล.กิมเอ็ง         ซื้อเก็งกำไร           2.40
          บล.พัฒนสิน           HOLD              2.08 (เป็น Fair Price สำหรับปี53)
          บล.ทรีนีตี้          ซื้อเมื่ออ่อนตัว          2.00/ต่ำกว่า
          บล.เอเซียพลัส         ถือ               1.90

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ บล.ทรีนีตี้ มองว่า ผลประกอบการ SVI อาจจะยังทรงตัวในไตรมาส 3/52 แต่น่าจะเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาส 4/52 และไตรมาส 1/53 เนื่องจากลักษณะสินค้าเป็นสินค้าอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของคำสั่งซื้อต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เห็นได้จากจังหวะที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจคำสั่งซื้อจะยังไม่หายไปทันที แต่จะหายไปในช่วงถัดมา ดังนั้น ในไตรมาส 3/52 ก็จะยังไม่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่คงจะไปเห็นผลของการฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/52

ดังนั้น เราคาดว่าภาพรวมของ SVI ทั้งปี 52 ในแง่ของกำไรอาจจะชะลอตัวลงจากปีที่แล้วประมาณ 20% ซึ่งน่าจะเป็นผลจากปีก่อนจนถึงต้นปี 52 บริษัทสามารถซื้อวัตถุดิบในราคาต่ำได้ค่อนข้างมาก ทำให้อัตรากำไรในช่วงต้นปีดี แต่พอมาถึงครึ่งปีหลังคงจะกลับมาเป็นภาวะปกติ อัตรากำไรอาจจะถอยกลับลงไปต่ำกว่าตอนต้นปีบ้าง ประกอบกับจะมีต้นทุนของดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการกู้เงินเพื่อมาจ่ายปันผล

ส่วนปี 53 ผลประกอบการน่าจะปรับดีขึ้นจากปี 52 ทั้งรายได้และกำไรจากการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันคาดว่าจะเริ่มมีลูกค้าส่งคำสั่งซื้อใหม่เข้ามามากในช่วงนั้น จึงน่าจะทำให้มีอัตราการเติบโต แต่อาจจะไม่ได้โตเยอะมาก และตอนนี้อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดว่าจะเป็น Level ไหน

ส่วนเรื่องการจ่ายปันผล เรามองว่าตลาดรับรู้เรื่องนี้ไปแล้ว หลังจากนี้กว่าจะจ่ายปันผลได้อีกทีก็คงจะนาน เราก็ยังแปลกใจที่ราคาหุ้นขึ้นได้ดี เพราะ Outlook ธุรกิจ เป็นภาพที่ดูดีขึ้นก็จริง แต่ถามว่าผู้ถือหุ้นจะได้ Return อะไรจากหุ้นในช่วงนี้หรือไม่ ก็คงอีกนาน เพราะหลังจากจ่ายเงินปันก้อนนี้ไปแล้วปีนี้คงจะไม่มีการจ่ายอีก โดยคาดว่าจะเห็นเงินปันผลอีกทีอย่างเร็วก็คือไตรมาส 1/53 หรือไม่ก็อาจจะเป็นปันผลของปีถัดไปเลย เพราะปีนี้จ่ายปันผลมาเกิน 100% ของกำไรแล้ว

"เรามองว่าถ้าจะซื้อน่าจะ"รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว"ลงมา 2.00 บาท/หุ้น หรือต่ำกว่า เพราะถ้าซื้อไปตอนนี้ก็ต้องหวังเรื่องราคาหุ้นปรับขึ้นไปอย่างเดียว"นายกิจพล กล่าว

ด้าน น.ส.ศลยา ณ สงขลา บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก"ถือ"เป็น"ซื้อเก็งกำไร"หลังจากบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลถึง 0.9529 บาท/หุ้น หรือ 41.7% ของราคาหุ้นปัจจุบัน และรายงานกำไรไตรมาส 2/52 สูงกว่าคาด เราเชื่อว่าการจ่ายเงินปันผลพิเศษก้อนใหญ่มีวัตถุประสงค์ที่จะจ่ายเงินสดให้บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ MFG Solution ถือหุ้นหลักโดยกรรมการผู้จัดการของบริษัทเพื่อจะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการชำระคืนหนี้ที่ขอกู้มา takeover บริษัท

SVI มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากการดำเนินงานปกติ 0.0815 บาท/หุ้น และ เงินปันผลพิเศษอีกเป็นจำนวน 0.8714 บาท/หุ้น รวม 0.9529 บาท/หุ้น โดยกำหนดจ่ายวันที่ 23 ก.ย.ทั้งนี้ เราคาดว่าครึ่งปีหลังบริษัทจะจ่ายเงินปันผลอีก 0.10 บาท/หุ้น

บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/52 มีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้วมีกำไรปกติ 149 ล้านบาท ลดลง 6% qoq แต่เพิ่มขึ้น 14% yoy แม้ลูกค้าบางราย เช่น ผู้ผลิตอุปกรณ์ทำความเย็นสำหรับเรือเดินสมุทร และอุปกรณ์ให้ความร้อนใต้พื้นบ้าน(floor heating)จะมีธุรกิจชะลอตัว แต่ก็มีลูกค้าใหม่จากตะวันออกกลางเข้ามาทดแทนได้บ้าง ทำให้รายได้รวมลดลง 6% qoq และ 9% yoy เป็น 1.6 พันล้านบาท

ทั้งนี้ กำไรดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ของเรา 25% เนื่องจากสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าคาด โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 12.7% ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ 13.1% เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.5%

ด้วยกำไรที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/52 ทำให้เราปรับเพิ่มการคาดการณ์กำไรปกติของ SVI ในปี 52 ในอัตรา 6% เป็น 560 ล้านบาท หรือ 0.33 บาท/หุ้น (fully diluted) จากการเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจาก 12.1% เป็น 12.6% ซึ่งเป็นกำไรที่ต่ำลง 11% จากปีก่อนที่มีกไรปกติราว 626 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งหลังของปีที่แล้วบริษัทได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าลงแต่มีการสั่งซื้อวัตถุดิบตั้งแต่ก่อนหน้านั้น

จากการปรับเพิ่มประมาณการดังกล่าว เราจึงประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น SVI เพิ่มจาก 2.24 บาท/หุ้น เป็น 2.40 บาท/หุ้น อ้างอิง P/E เฉลี่ยปี 52-53 ที่ 7 เท่า

ขณะที่นางเพลินใจ จิระจรัส นักวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน มองว่า เรามองข้ามไปปีถึง 53 เพราะทุกคนเริ่มมองผลประกอบการปีหน้ามากกว่าปีนี้แล้ว โดยมองว่าราคาหุ้น SVI ในปัจจุบันที่ 2.22 บาท/หุ้น เมื่อเทียบกับราคา Fair Price ที่เราให้ไว้สำหรับปีหน้าที่ 2.08 บาท/หุ้นแล้ว ถือว่า Upside เกินไปแล้ว โดยคำนวณ Fair Price จากความสามารถในการทำกำไร

ส่วนราคาที่ขึ้นมาเป็นเรื่องของเงินปันผลพิเศษ ซึ่งทำให้ฐานะการเงินของบริษัทแย่ลงเพราะต้องไปกู้เงินมาจ่าย เราคิดคร่าวๆ ประมาณ 50 ล้านบาท บริษัทก็ต้องลำบากขึ้นเพราะต้องทำกำไรเพื่อมาชดเชยดอกเบี้ยนี้ด้วย


แท็ก เอสวีไอ   (SVI)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ