AGE เชื่อ H2/52 ยอดขายฟื้นหลังออเดอร์ทยอยเข้า คาดปี 53 เติบโตได้ 20%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 28, 2009 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE)กล่าวว่า คำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)จากลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/52 และบางรายมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/53 น่าจะทำให้ยอดขายในช่วงไตรมาส 3/52 เติบโตจากไตรมาสก่อนราว 20% และต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/52 ที่จะเติบโตขึ้นอีก 10%

ดังนั้น คาดว่าในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ยอดขายถ่านหินของบริษัทจะเติบโตเพิ่มขึ้นมาที่ 5 แสนตัน จากครึ่งปีแรกที่มียอดขาย 4 แสนตัน แต่ถึงแม้ในครึ่งปีหลังยอดขายจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังขอคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ใกล้เคียงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่ 2,350 ล้านบาท เนื่องจากยังกังวลกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว และปัจจัยทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง

แต่หากทั้ง 2 ประเด็นไม่มีเหตุรุนแรง และจากออเดอร์ที่เข้ามาต่อเนื่องจะน่าทำให้ปีหน้าจะเติบโตได้ราว 20%

และจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้จำนวนลูกค้าใหม่ในปีนี้ลดลงเหลือ 50-60 ราย จากปีก่อนที่สามารถหาลูกค้าใหม่ได้ถึง 120-130 ราย โดยปัจจุบันบริษัทมีนยอดลูกค้าทั้งหมดกว่า 500 ราย ซึ่งบริษัทได้พยายามกระจายฐานลูกค้ามากขึ้นไปในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิ พลังงาน อาหาร และ ปิโตรเคมี

นายสมยศ กล่าวว่า นอกจากยอดขายที่อาจจะไม่เติบโตจากปีก่อนแล้ว ในปีนี้ยังคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นคงจะลดลง 2-3% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่อยู่ที่ 18-19% เนื่องจากการแข่งขันค่อนข้างสูง และราคาถ่านหินลดลงมาที่เฉลี่ย 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 70 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อัตรากำไรจะลดลง แต่บริษัทเชื่อว่ายังมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผล แม้ว่าจะจ่ายในอัตราที่ลดลง ซึ่งขึ้นกับการพิจารณาคณะกรรมการบริษัท ซึ่งบริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลที่ 40% ของกำไรสุทธิ

สำหรับการลงทุนในปีนี้คงไม่มีแล้ว หลังจากที่บริษัทได้ลงทุนในคลังสินค้าแห่งใหม่ที่ จ.ชลบุรี ไปแล้ว โดยขณะนี้มีการเดินเครื่องย่อยถ่านหินซึ่งมีอัตรการใช้กำลังการผลิตแล้ว 50% หรือคิดเป็น 2 พันตัน/วัน ทำให้มียอดขายในภาคตะวันออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนจากที่บริษัทมียอดขายเฉพาะภาคตะวันออกอยู่ที่ 138,413 ตัน/ปี หรือคิดเป็นรายได้ 310 ล้านบาท คิดเป็น 14% ของรายได้รวม

ปัจจุบัน บริษัทมีคลังสินค้าครอบคลุม มี 4 แห่ง อยุธยา ชลบุรี เพชรบุรี และ สมุทรสาคร

ส่วนการลงทุนในปีหน้า จะเป็นลักษณะของการลดต้นทุนมากกว่าเพื่อหวังผลในระยะยาว โดยวางแผนใช้เม็ดเงินมากกว่าปี 51-52 ทีใช้เฉลี่ยประมาณ 100 ล้านบาท โดยเม็ดเงินจะมาจากการกู้สถาบันการเงิน และจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีกว่า 400 กว่าล้านบาท

นอกจากนี้ คาดว่า จะสามารถสรุปการหาแหล่งถ่านหินเพิ่มได้ 2-3 แห่ง ภายในปีนี้ถึงต้นปีหน้า จากปัจจุบันมีอยู่ 5-6 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งก็จะทำให้สามารถต่อรองราคาในการสั่งซื้อถ่านหินได้ดีขึ้น และทำให้ต้นทุนปรับลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ