ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันนี้ โดยดัชนีร่วงลงต่ำกว่าระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มส่งออก รวมถึงหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า หลังจากค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 241.99 จุด หรือ 2.36% แตะที่ 10,023.99 จุด โดยก่อนที่ตลาดจะปิดภาคเช้า ดัชนีดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 9,989.65 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นมา
ทาคาฟูมิ โฮริอูชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮ กล่าวว่า เงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังจากนายฮิโรอิชิ ฟูจิอิ รมว.คลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าจะไม่เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ยังมีมติให้รักษาสมดุลด้านการค้าและการลงทุนในตลาดโลก ซึ่งยิ่งทำให้การแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเป็นไปได้ยากขึ้น
ทั้งนี้ ราคาหุ้นดิ่งลงเกือบทั่วกระดาน โดยหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มขนส่งทางทะเลดิ่งลงอย่างหนัก ส่วนหุ้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มค้าปลีก กลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ ดีดตัวขึ้นเล็กน้อย
นักลงทุนจับตาดูผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 3 ซึ่งธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าผลสำรวจทังกันจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ -33 จุด จากไตรมาส 2 ที่ระดับ -48 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย และสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังคงมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังฟื้นตัวไม่มากพอที่ทางบริษัทจะเพิ่มการลงทุนในระยะนี้