บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาทให้แก่ บมจ.ไทยคม (THCOM)ที่ระดับ “BBB+" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่"
อันดับเครดิตดังกล่าว สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอในธุรกิจดาวเทียมแบบทั่วไป ตลอดจนผลประกอบการที่ดีและมูลค่าเงินลงทุนในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในธุรกิจดาวเทียมบรอดแบนด์ในประเทศไทยและออสเตรเลีย รวมทั้งประโยชน์ที่ได้รับจากการสนับสนุนของบริษัทในกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดต่างประเทศ รวมถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจดาวเทียมและจากความเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ และความไม่แน่นอนในผลสำเร็จของธุรกิจดาวเทียมบรอดแบนด์ในตลาดที่สำคัญในต่างประเทศ
แนวโน้มอันดับเครดิต“Stable" สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ รวมทั้งยังคงสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากธุรกิจดาวเทียมแบบทั่วไปและธุรกิจสื่อสารในประเทศกัมพูชาและลาวต่อไปได้ โดยที่บทบาทของดาวเทียมไอพีสตาร์ในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกน่าจะค่อยๆ เพิ่มความสำคัญมากขึ้นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากดาวเทียมไอพีสตาร์ใช้เวลาในการสร้างตลาดในประเทศจีนนานกว่าที่คาดเอาไว้
THCOM ซึ่งเดิมชื่อ บมจ.ชินแซทเทลไลท์(SATTEL)เป็นผู้ให้บริการสื่อสารด้วยดาวเทียมแบบวงโคจรค้างฟ้าจำนวน 3 ดวง โดยเป็นดาวเทียมแบบทั่วไป 2 ดวง และดาวเทียมบรอดแบนด์ 1 ดวง (ภายใต้ชื่อไอพีสตาร์) บริษัทมีรายได้ในปี 2551 จำนวน 7,013 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากดาวเทียมแบบทั่วไปประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้จากดาวเทียมไอพีสตาร์คิดเป็นสัดส่วนอีก 1 ใน 3 และจากธุรกิจสื่อสารอีกประมาณ 28%
ฐานลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก ความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทเป็นผลมาจากสถานะความเป็นผู้นำในการเป็นผู้ให้บริการสื่อสารดาวเทียมในประเทศ ส่วนความสามารถในการแข่งขันนั้นได้รับแรงหนุนจากลักษณะของธุรกิจที่ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าได้ยากและต้องใช้เงินลงทุนสูง บริษัทมีมูลค่างานในธุรกิจดาวเทียมแบบทั่วไป ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 จำนวน 224 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเทียบเท่ารายได้จากดาวเทียมแบบทั่วไปประมาณ 4 ปี
ทริสเรทติ้งคาดว่า บริษัทจะสามารถรักษาความแข็งแกร่งทางธุรกิจในตลาดภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงเอาไว้ได้ซึ่งจะสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอในระยะปานกลาง อันดับเครดิตสะท้อนถึงความคาดหวังว่า บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 41% จะให้การสนับสนุนด้านกลยุทธ์ที่จำเป็นแก่บริษัทเพื่อเสริมสถานะทางธุรกิจและความยืดหยุ่นทางการเงิน
นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีปัจจัยสนับสนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในธุรกิจสื่อสารของบริษัทในประเทศกัมพูชาและลาว ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าแนวโน้มการเติบโตดังกล่าวจะยังเป็นไปอย่างต่อเนื่องและช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะปานกลาง
อันดับเครดิตของ THCOM ยังถูกบั่นทอนจากผลประกอบการของดาวเทียมไอพีสตาร์ที่ต่ำกว่าความคาดหมาย โดยที่ความสำเร็จของดาวเทียมไอพีสตาร์จนถึงปัจจุบันมาจากประเทศไทยและออสเตรเลียเป็นหลัก รวมทั้งสะท้อนความคืบหน้าของการเปิดตลาดในประเทศอินเดีย โดยบริษัทบรรลุข้อตกลงกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และหน่วยงานด้านอวกาศของประเทศอินเดีย (Indian States Space Agency) เพื่อใช้ดาวเทียมไอพีสตาร์ในการเชื่อมโยงโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งสัญญาดังกล่าวน่าจะมีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่ไตรมาส 4/52
อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของรายได้และระยะเวลาในการรับรู้รายได้จากตลาดในประเทศจีน ทั้งนี้ ยังต้องมีการพิสูจน์ถึงความสามารถในการแข่งขันของดาวเทียมไอพีสตาร์ในตลาดสื่อสารประเทศจีนต่อไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้บริหารของบริษัทในการที่จะจัดทำข้อเสนอทางธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของพันธมิตรธุรกิจ
ทริสเรทติ้ง กล่าวถึงฐานะทางการเงินของ THCOM ปรากฏให้เห็นถึงอัตราส่วนกำไรที่ยังคงได้รับแรงกดดัน กระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ภาระหนี้ในระดับปานกลาง และสภาพคล่องในระดับที่รับได้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อัตราส่วนกำไรของบริษัทได้รับแรงกดดันจากดาวเทียมไอพีสตาร์ ทำให้มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 34-38%
อัตราส่วนกำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากความสำเร็จของการสร้างตลาดในประเทศจีนและอินเดียเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ทริสเรทติ้งเห็นว่าในแง่ของกลุ่มแล้ว บริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้และปฎิบัติได้ตามข้อกำหนดของสัญญาเงินกู้ และยังคาดว่าบริษัทจะชำระคืนเงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐและปรับกำหนดเวลาการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น