นายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.124 คอมมิวนิเคชั่นส(PR124)ออกอาการปลื้มสุด ๆ กับการมีพันธมิตรเข้ามาร่วมปรับปรุงเปลี่ยนแปลง PR124 ให้มีลู่ทางธุรกิจสดใสขึ้นหลังจำกัดตัวเองอยู่เฉพาะงานประชาสัมพันธ์มานานกว่า 20 ปี แถมเจ้าตัวก็ยอมรับหุ้น PR124 ขาดสภาพคล่องเอามากๆ จึงตัดสินใจเจรจาพันธมิตรมานานแรมปี จนที่สุดส่วนผสมทั้งหมดมาลงตัวกับ"คุณากร เศรษฐี"หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ค่ายบันเทิงยักษ์"พร้อมมิตร โปรดักชั่นส์"
นายคุณากรและกลุ่มยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์)หุ้น PR124 สัดส่วน 83% ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท ขณะที่นายนิมิตรยืนยันว่าทางกลุ่มลดาวัลย์และหมดราคีจะไม่ขาย ทำให้เหลือสัดส่วนหุ้นเพียง 50.45% ที่ทางกลุ่มนายคุณากรเข้าทำเทนเดอร์ฯ ซึ่งหากรวมกับจำนวนหุ้นที่กลุ่มนายคุณากรเข้ามาถือก่อนหน้านี้ 17% ก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 67.45%
*PR124 นับถอยหลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังเดินธุรกิจเดิมมานานกว่า 20 ปี
"มีคนมาช่วยทำงานมันดีมากเลยนะ คิดดูถ้าเราทำคนเดียว โตมันก็โตไม่มาก เวลาจะไปประมูลงาน แล้วงานของผมในส่วนของราชการมันเยอะ จะไปสู่อะไรกับคนอื่นบางทีต้นทุนมันจะสูง แต่ตอนนี้ผมมเครื่องไม้เครื่องมือเยอะ สมมติใครจะมาเป็นลูกค้าให้เราคิดแคมเปญ มองจากมุมของงานพีอาร์มันก็ไม่เยอะ แต่ตอนนี้ผมมีสื่ออย่างอื่นตั้งเยอะ มีค่ายพระสุริโยไท พระนเรศวร โรงถ่าย แล้วยังมีผู้บริหารอยู่ข้างหลังที่จะชี้ช่องให้เราอีกเยอะ มีพรรคพวกมาช่วยกันเยอะๆ อย่างนี้มันกว่าเยอะ"
*ตกลงจับมือกับพันธมิตรร่วมมือขยายธุรกิจ
"เราตกลงเป็นพันธมิตรกันเพื่อช่วยกันขยายธุรกิจต่อไป ถึงได้ตั้งบริษัทย่อยขึ้นมา 2 บริษัท PR124 ก็เป็นบริษัทแม่ แล้วที่เราเห็นตรงกัน คือ หุ้น PR124 ไม่มีสภาพคล่องเลย เพราะหนึ่งผมไม่ขาย ครอบครัวพี่น้องผมก็ไม่ขาย จะซื้อเพิ่มด้วยเท่าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯอนุญาตให้ซื้อและไม่ผิดระเบียบ แต่เกิดมาไม่เคยขาย ญาติพี่น้องก็ไม่ขาย เพราะเราทำสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว
ทีนี้พันธมิตรใหม่มีความประสงค์อยากจะมาร่วมธุรกิจกับเราจริงๆ เห็นว่าเรามีช่องทางในการขยายธุรกิจ และบังเอิญคุณคุณากรคือส่วนผสมลงตัว คุยกันรู้เรื่อง ไม่ใช่เพิ่งคุย ไม่ใช่แค่มาบอกว่าผมมีตังค์จะซื้อกิจการคุณ"
*หลังมีพันธมิตรเข้ามาทิศทางหรือวันข้างหน้าของ PR124 จะเป็นอย่างไร
"ผมบอกอย่างนี้ก็แล้วกัน เกิดมาผมมีแค่ 0 ก่อนตายมีมากกว่า 0 แน่นอน ตกใจทำไม ไม่ต้องกลัว ทุกอย่างต้องเดินไป Happy ไม่มีปัญหา วันข้างหน้า 124 ก็ยังเป็น 124 ผมกลับมองว่าถ้า 124 ยังเป็นอย่างทุกวันนี้ ระยะยาวจะลำบาก เหตุผลคือเราทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ แล้วก็ไม่แฟร์ต่อผู้ถือหุ้นด้วยเพราะเงินเค้าอยู่กับเรา ทำไปทำมามูลค่าน้อยลง หุ้นไม่มีสภาพคล่อง ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย
พอมีผู้ถือหุ้นใหม่มา เริ่มมีชีวิตชีวา เมื่อก่อนหุ้นราคาบาทกว่าๆ ผู้ถือหุ้นมาตั้งราคาเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ที่ 3.50 บาท แสดงว่าเค้าต้องเห็นอะไรในบริษัท เดี๋ยวเราก็จะออกลูกหุ้น เพิ่มทุน วันข้างหุ้นก็จะมีสภาพคล่องมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัท 124 จะมีช่องทางในการประกอบธุรกิจมากขึ้น เพราะ Connection ในธุรกิจเค้าเยอะ เราเองก็มีเยอะ เอา 2 อันมาต่อกันน่าจะไปได้ดี"
*124 จะยังโตด้วยธุรกิจสื่อและธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่อไป
"ผมเห็นตัวอย่างหลายๆ รายแล้ว ทำธุรกิจเดิมก็ดีอยู่แล้วเกิดเปลี่ยนธุรกิจปรากฎ เจ๊ง!...เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ได้แต่อย่าแตกจากธุรกิจหลัก ผมเป็นผู้บริหารไง ผมก็ต้องมองวันนี้เราทำด้าน Communication สื่อเราทำได้ งานประชาสัมพันธ์เราทำได้ งานที่ปรึกษาเราทำได้ งานกิจกรรมด้านองค์กรเราทำได้ แต่อย่าไปทำอสังหาฯ อย่าไปขายเหล็ก อย่าไปทำอย่างอื่นที่ไม่ถนัด เราต้องทำในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญสิครับ
ถึงแม้ว่า 2 ปีที่ผ่านมา PR124 ขาดทุน เราก็ยังไม่ได้กู้เงินใคร เราประคับประคองตัวเองได้จากทุนที่เรามี เพราะเราไม่ได้เอาเงินทุนไปใช้บ้าๆ บอๆ ตรงนี้ทำให้ผู้ถือหุ้นอื่นๆ ว่าเราไม่ได้ว่าทำไมเราไม่จ่ายเงินปันผล"
*ผู้บริหารชุดเดิมยังอยู่กันครบ พันธมิตรใหม่ส่งตัวแทนร่วมเป็นบอร์ด
"หลังการเข้ามาซื้อหุ้นคราวที่แล้วของกลุ่มนายคุณากร เศรษฐี จำนวน 17% ทางกลุ่มนายคุณากรก็ได้ส่งบุคคลเข้ามาเป็นคณะกรรมการแล้ว 2 ท่าน คือ พลเอกวิชิต ยาทิพย์ เข้ามาเป็นกรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบ และพลตรีรังสฤษดิ์ แจ้งเจนกิจ เป็นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ และในเร็วๆ นี้จะส่งเข้ามาอีก 1 ท่านรวมเป็น 3 ท่านซึ่งจะเป็นใครยังไม่ทราบเช่นกัน"
นายนิมิตร กล่าว่า ปัจจุบัน กรรมการในฝ่ายผู้บริหารเดิมมีครบแล้ว 4 คือ นายนิมิตร หมดราคี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางโสภาวดี จันทร์ถาวร กรรมการผู้จัดการ นางมนิลา ลดาวัลย์ กรรมการ น.ส.กันยามาส มาลีถาวรกุล กรรมการ ทุกคนยังอยู่กันครบ
*ส่วนตัวและครอบครัวยืนยันหนักแน่นไม่ขายหุ้นที่มีอยู่ 32.55%
"ผมไม่ขาย ผมยืนยันไปตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ขาย คือเรื่องนี้เราคุยกันมาเป็นปี คุณคุณากรเค้าก็มาถามผมว่าจะขายมั้ย ผมก็ยืนยันชัดเจนว่าส่วนตัวของผมและครอบครัวผมไม่ขาย เคยบอกไปเล่นๆ ว่า ให้หุ้นละ 20 บาทสิจะขาย เค้าก็บอก"บ้า"...คิดกันตามเหตุผล ผมเองยัง Happy ในงานที่ผมทำ และก็ Happy ที่มีเค้ามาเป็นพันธมิตร แล้วเราจะได้ต่อยอดธุรกิจกันอีกเยอะแยะ เป็นการจับมือกันแบบเพื่อนฝูง...แหม ผมสร้าง 124 มากับมือ จนวันนึงเข้าตลาดหลักทรัพย์ อยู่ๆจะขายทิ้งได้ไง
ส่วนคนในครอบครัว ผมรู้ว่าเค้าไม่ขายหรอก เพราะเป็นเศษเงินของเค้า เพราะมีเงินตั้งเป็นพันๆ ล้านจะมาขายหุ้นเท่าหยิบมือ อย่างคุณนิคม หมดราคีมีอยู่ 5 พันหุ้น โอเลี้ยงมื้อนึงก็หมดแล้ว"
*ยืนยันไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับผู้ทำเสนอซื้อ
"ไม่มี ไม่ได้ขัดแย้งกันด้วย เรื่องคุณคุณากรจะทำคำเสนอซื้อ (Tender Offer) ถึงผม ครอบครัวผมไม่ขาย ก็เป็นเรื่องที่ทางคุณคุณากรต้องไปดำเนินการตั้งโต๊ะซื้อจากผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ซึ่งผมก็ได้แต่ส่งกำลังใจให้เค้าสามารถรวบรวมหุ้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะผม Happy มากกับการมีพันธมิตร"
*สรุปผลงานปีนี้และภาพปี 53
"ก็ยังหวังว่าปีนี้จะยังเห็นผลประกอบการที่เป็นกำไร เนื่องจากมองว่าเรื่องการเมืองกับเศรษฐกิจไม่น่าตกใจแล้ว งานต่างๆ ก็เริ่มทยอยออกมา ยังตอนนี้ก็มีรอเซ็นสัญญาอีก 4-5 ราย จากครึ่งปีหลังที่ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาอีกเกือบ 10 ราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนปีหน้ามั่นใจมากว่าจะยิ่งดีกว่าปีนี้แน่นอนอยู่แล้วครับ เพราะปีหน้าเศรษฐกิจเลยจุดต่ำสุดมาแล้ว การเมืองก็จะเข้าที่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่เราที่จะเก็บเกี่ยวโอกาสเหล่านี้ได้อย่างไร นี่ก็กำลังเพิ่ม Staff อีก 3-4 คน เอาเด็กใหม่ๆ มาเทรนใหม่ ฝึกใหม่ จะขุนให้เหมาะสมกับงาน