นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการ ASEAN Linkage ว่า มีความเป็นไปได้ที่โครงการอาจจะล่าช้าไปเป็นปี 53 จากที่เคยคาดว่าจะได้เห็นการจับคู่ซื้อขายระหว่างไทยและมาเลเซียเป็นคู่แรกภายในปีนี้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือก System Provider น่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ จากล่าสุดเหลืออยู่เพียง 2 ราย
โครงการ ASEAN Linkage เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ในการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ในในกลุ่มอาเซียน 5 ตลาด ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย
ส่วนการเดินทางไปโรดโชว์ยังสหรัฐอเมริกานั้น นางภัทรียา กล่าวว่า ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะการที่นายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษเพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนช่วยสร้างความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งบางกองทุนที่เข้ามารับฟังข้อมูลในครั้งนี้ก็ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ให้ overweight 5% มากกว่า MSCI ที่ให้น้ำหนักการลงทุนในไทยเพียง 2%
นางภัทรียา กล่าวว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมในการกลับเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีมุมมองที่ดีขึ้น ทั้งจากกองทุนที่เคยลงทุนและยังไม่เคยเข้ามาลงทุน เพื่อมาหาผลตอบแทนที่ดี และตอนนี้ภูมิภาคเอเชียเป็น 1 ในผู้นำที่มีบทบาทของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักลงทุนของนักลงทุนสถาบันต่างชาติจะรวดเร็วแค่ไหนขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละกองทุน แต่จากการที่นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยถึง 2.5 หมื่นล้านบาทแล้วนั้น เชื่อว่าคงจะยังมีการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ค่า P/E ของตลาดหุ้นไทย และ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน แต่ยอมรับว่าอาจทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนบ้าง