หุ้น ML ราคาพุ่งขึ้น 11.76% มาอยู่ที่ 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 24.36 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.41 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.17 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.19 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.17 บาท
นายธีรวัฒน์ เกียรติสมภพ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไมด้า ลิสซิ่ง(ML)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รายได้ของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากปีนี้บริษัทฯได้เน้นการดำเนินธุรกิจในแบบของการสร้างผลกำไร มากกว่าที่จะขยายการปล่อยสินเชื่อใหม่
ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท โดยเน้นปล่อยสินเชื่อรถมือสองในสัดส่วนประมาณ 90% คิดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 5% ขึ้นไป แล้วแต่อายุของรถ ส่วนอีกเกือบ 10% จะปล่อยสินเชื่อรถใหม่ ส่วนใหญ่เป็น แท็กซี่ มิเตอร์ คิดอัตราดอกเบี้ย 7% ขึ้นไป และสำหรับรถใหม่ทั่วไปทางบริษัทฯจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้เพราะการคิดอัตราดอกเบี้ยจะต่ำแค่ 2-3% เท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้รับประโยชน์จากโครงการไทยเข้มแข็งอีกด้วย ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ดังนั้นเมื่อชาวบ้านมีเงินก็สามารถซื้อรถมือสองเพื่อนำไปใช้ในธุรกิจการเกษตร
*การออกวอแรนต์ยังไม่คืบหน้า
นายพิทยา วงศ์ว่องชัย ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ ML และเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายธุรกิจ-การเงิน กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้การออกวอร์แรนค์ของ ML ยังไม่คืบหน้า แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้วหลังจากวันได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ขณะที่กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานก.ล.ต.กำหนดให้ต้องจัดการเรื่องของวอแรนต์ให้เสร็จพร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ภายใน 1 ปี
ส่วนเหตุผลที่ทาง ML แจ้งกับทางตลาดหลักทรัพย์ ตนเห็นว่าไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร และหากยังไม่มีความคืบหน้า ก็อาจจะพิจารณษฟ้องร้องดำเนินคดีกับทางบริษัทในข้อหาหลอกลวงผู้ถือหุ้น
ด้านกรรมการผู้จัดการ ML กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้มีการแจ้งถึงเหตุผลที่ไม่สามารถออกวอแรนต์ให้แก่ผู้ถือหุ้น ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากผู้ถือหุ้นท่านใดต้องการจะฟ้อง ทางบริษัทฯก็คงจะทำอะไรไม่ได้
"ส่วนการออกวอแรนต์ของบริษัทฯจะออกได้เมื่อไรนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ คงจะต้องรอให้ถึงจังหวะที่เหมาะสมก่อนแล้วถึงจะออกได้ และเรื่องนี้คงจะต้องผ่านบอร์ดของบริษัทฯพิจารณาอีกทีหนึ่งด้วย"กรรมการผู้จัดการ ML กล่าว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2552 ML แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า เนื่องด้วยมติการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 1 ของบริษัทฯ จำนวน 1,955,000,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2551 มีอายุมติครบ 1 ปีแล้วนั้น ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการตลาดทุนที่ ทจ.34/2551 เรื่องการขออนุญาตให้เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ออกใหม่และหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ กำหนดให้บริษัทต้องเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญและหุ้นรองรับให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
เนื่องจากในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งปัญหาทางการเมืองที่ไม่สงบและมั่นคงภายในประเทศ ส่งผลกระทบให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยมีการปรับลดลง การลงทุนในด้านต่างๆ ทั้งของภาครัฐบาลและภาคเอกชนชะลอการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทฯ ยังคงมิได้ดำเนินการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ออกใหม่แต่อย่างใด ซึ่งในปัจจุบันคณะกรรมการของบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว