บมจ.อสมท(MCOT)แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 16/2552 วันที่ 8 ตุลาคม 2552 มีมติอนุมัติสัญญาร่วมดำเนินกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกระหว่าง MCOT บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทรู วิชั่นส์ เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) โดยอนุญาตให้ กลุ่มบริษัท ทรู วิชั่นส์ฯ ดำเนินการหารายได้จากการรับทำการโฆษณาในช่องรายการของโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกได้ไม่เกินชั่วโมงละ 6 นาที
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท ทรู วิชั่นส์ฯ จะจ่ายค่าตอบแทนที่ได้รับจากการรับทำโฆษณาให้แก่ MCOT เป็นเงินร้อยละ 6.5 ของรายได้จากการรับทำการโฆษณาในแต่ละปีก่อนหักค่าใช้จ่ายใด ๆ
นอกจากนี้ MCOT ยังมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงในการชดใช้ค่าเสียหายกรณีที่กลุ่มบริษัท ทรู วิชั่นส์ฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงิน 87,919,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย โดยแบ่งชำระเป็นรายเดือน จำนวน 12 งวด
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ MCOT เปิดเผยว่า บริษัทได้เรียกค่าปรับเพิ่มอีก 20 ล้านบาท หริอคิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 3 ของวงเงิน 87.9 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าโฆษณาที่ทรู วิชั่นส์ ดำเนินการไปก่อนหน้านี้อีกประมาณ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ทรู วิชั่นส์ต้องชำระให้ MCOT 110.86 ล้านบาท โดยบริษัทจะบันทึกเป็นรายได้ภายในไตรมาส 4/52
สำหรับส่วนแบ่งรายได้ที่จะเกิดจากการโฆษณาของทรูวิชั่นส์ ทาง MCOT ยังไม่ได้คำนวณว่าจะเป็นวงเงินได้เท่าใดต้องรอประเมินสถานการณ์อย่างน้อย 3 เดือนก่อน
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อโต้แย้งระหว่าง MCOT กับทรู วิชั่นส์ เรื่องส่วนแบ่งรายได้ว่า ทรู วิชั่นส์ จ่ายส่วนแบ่งรายได้ในอดีตไม่ครบโดยขาดไปประมาณ 200-400 ล้านบาท ซึ่งทางทรู วิชั่นส์ ก็ได้มีการรับฟังในเรื่องนี้และจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนเพื่อมาศึกษาในข้อโต้แย้งดังกล่าวต่อไป
ส่วนการเจรจาสัญญารอบใหม่ระหว่าง MCOT กับ บมจ.บีอีซี เวิลด์(BEC) นายสุรพล กล่าวว่า ได้มีการเจรจาไปหลายครั้งแล้ว โดยทาง MCOT เสนอส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 6.5 เช่นเดียวกับสัญญาของทรู วิชั่นส์ ทดแทนสัญญาเดิมที่มีกำหนดค่าตอบแทนแบบขั้นบันได ซึ่งเชื่อว่าจะมีข้อสรุปด้วยดีภายในสิ้น ต.ค.นี้
ด้านนายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT กล่าวว่า อสมท.ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 5-7% แม้ว่าจะมีรายได้พิเศษเข้ามาแต่ไม่ได้ปรับเป้าหมายแต่อย่างไร หลังจากนี้ การตกลงสัญญากับ ทรู วิชั่นส์ได้ จะทำให้ MCOT สามารถดำเนินการเพิ่มช่องออกอากาศได้มากขึ้น โดยตั้งใจเพิ่มอีก 3 ช่อง ส่วนรายได้ที่จะเพิ่มเข้ามานั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นกลไกตลาด แต่ก็ถือว่ามีแรงจูงใจที่ดี และน่าจะทำให้รายไดิ้พิ่มขึ้น
นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า การตกลงร่วมกับระหว่าง MCOT กับทรู วิชั่นส์ ถือว่าเกิดประโยชน์ทั้งบริษัทและสมาชิก เนื่องจากบริษัทจะสามารถเพิ่มเติม content ได้มากขึ้น และมีโอกาสหาพันธมิตรผู้ผลิตรายการได้มากขึ้น เนื่องจากบริษัทจะมีรายได้จากโฆษณาเข้ามา ซึ่ง content ที่สนใจจะเพิ่มเติม ได้แก่ หนัง ละคร กีฬา ส่วนอัตราค่าสมาชิก จะมีการลดลงดหรือไม่ยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่า สมาชิกจะได้รับ content ที่ดี และเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทรู วิชั่นส์มีแผนเพิ่มอีกหลายข่อง
ส่วนประเด็นปัญหาทรูวิชั่นส์ จ่ายส่วนแบ่งรายได้จ่ายไม่ครบตามจำนวน ทางทรู วิชั่นส์ ก็พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้จากรายการที่ออกอากาศผ่านมา
"เราไม่กังวล ว่าจะมีสมาชิกบอกยกเลิก กลับมองว่า สมาชิกน่าจะพอใจกับ content ที่เพิ่มขึ้น ส่วนที่ลดค่าสมาชิกเป็นเรื่องยากเพราะเราไม่รู้ว่ารายได้โฆษณาจะเพิ่มขึ้นเท่าไร และบริษัทตั้งทีมงานเพื่อดูแลและอธิบายกับสมาชิกในการขอมีโฆษณาเรียบร้อยแล้ว"นายสมพันธ์ กล่าว
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงาน commercial ของทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า ปีนี้ ทรู วิชั่นส์คาดว่าจะมีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน และยังคงเป้าหมายจำนวนสมาชิกเติบโตเป็น 2 ล้านราย จากสิ้นปี 51 ที่มีสมาชิก 1.4 ล้านราย โดยได้ทำการตลาดร่วมกับบริษัทในเครือ ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่การที่มีลูกค้าเติบโต เนื่องจากมี content ที่ดึงดูดความสนใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้นด้วยบริการในกลุ่มทรูด้วยกัน