บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์(STAR)คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 45% จาก 40% ในปีก่อน หลังบริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในไตรมาส 4/52 อีกราว 3 ชุด เพื่อจับกลุ่มลูกค้าระดับบน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมาร์จิ้นสูง ขณะที่ตลาดกลางถึงล่างมีมาร์จิ้นอยู่ที่ 20%
สำหรับรายได้ปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10-15% ส่วนปีหน้าเพิ่มอย่างมีนัยหลังการเพิ่มผลิตภัณฑ์ชุดใหม่ ซึ่งปีหน้ามีแผนจะเพิ่มประมาณ 5-6 ชุด
นายสมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ STAR กล่าวว่า การที่บริษัทหันมาให้ความสำคัญในการเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดระดับบน นอกจากส่งผลต่อกำไรแล้ว ยังเชื่อว่าจะทำให้ความสามารถในการจ่ายปันผลปีนี้มากกว่าปีก่อนที่จ่าย 0.02 บาท/หุ้น นอกจากนี้ ยังเน้นขยายไปยังต่างประเทศเพิ่มด้วย อาทิ อินเดีย ตะวันออกกลาง และจะขยายไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนในญี่ปุ่นเพิ่มจากเดิมที่เน้นในตลาดระดับกลางอยู่แล้ว
จากการที่ตลาดระดับบนมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและมีมาร์จิ้นที่ดี ทำให้บริษัทมีแผนจะยื่นขออนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)ในการขยายพื้นที่โรงงานภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตอยู่ที่ 1.3 หมื่นตัน/ปี จากปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิต 75-80% คาดว่าจะใช้งบประมาณในการขยายพื้นที่ 60-70 ล้านบาท จากกระแสเงินสดของบริษัทที่ขณะนี้ถือว่ามีจำนวนมากและเพียงพอ ส่วนใหญ่จะใช้ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม
"เวลาของ STAR มาถึงแล้ว เราบ่มเพาะจนรู้ว่าเราเหมาะกับตลาดกลุ่มไหน เร็วๆ นี้จะเห็น new look ของเรา เรารู้จักโลกมากขึ้น และรู้จักตัวตนของเราว่าเราเหมาะกับอันไหน อยู่ที่ความสามารถในการผลิตอย่างเดียว" นายสมชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
สำหรับการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในงาน"โฮมโปร เอ็กซ์โปร์ 2009"ระหว่างวันที่ 16-25 ตุลาคมนี้ ทางบริษัทไม่ได้หวังมียอดขาย แต่เป็นการต่อยอดในปีหน้า
ปัจจุบัน STAR มีรายได้จากการส่งออกเป็นสัดส่วนถึง 70% และ 30% เป็นรายได้จากตลาดในประเทศ โดยในปีหน้ามีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนในประเทศเป็น 35-40% ขณะที่สัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะลดเหลือ 60-65% และเพิ่มสัดส่วนในกลุ่มลูกค้าโครงการเป็น 40% จาก 20% ในขณะนี้ เพื่อรับผลดีจากมาตรการภาครัฐ