นายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(NAV)ของกองทุน LTF และ RMF ภายในสิ้นปีนี้ที่ 1 พันล้านบาท/กองทุน ถึงแม้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาขนาดของกองทุนเติบโตน้อย ซึ่ง LTF มี NAV อยู่ที่ 689 ล้านบาท และ RMF มี NAV อยู่ที่ 612 ล้านบาท(ณ สิ้น ก.ย.)
เนื่องจากตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวน จึงส่งผลทำให้ผู้ลงทุนมีความกังวล แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงปลายปีจะมีการลงทุนมากขึ้นตามปกติที่จะเข้ามามากในช่วงปลายปีเพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้
"ยอมรับว่าปีนี้จะเป็นปีที่การเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF น้อย เพราะลูกค้าค่อนข้างกลัว โดยเฉพาะในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ไม่ดี คนกล้าๆ กลัวๆ รอจังหวะ แต่พอตอนนี้หุ้นปรับขึ้นก็กลัวอีกไม่กล้า เพราะการขึ้นก็ขึ้นแรงและก็ลงแรง ตอนนี้เรามีมาร์เก็ตแชร์ LTF ที่ 1% ของทั้งระบบที่ 6 หมื่นล้านบาทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เราก็ยังหวังและทำให้ได้ตามที่วางไว้" นายศุภกร กล่าว
นายศุภกร กล่าวต่อว่า จากการสำรวจผลการดำเนินงานของกองทุนรวมตราสารทุน โดยสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.52 พบว่ากองทุนรวมหุ้นระยะยาวของ MFC ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว(MV-LTF) และกองทุนเปิดเพิ่มทรัพย์หุ้นระยะยาว(MA-LTF)สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีของตลาด โดยหากประเมินผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนพบว่ากองทุนเปิด MV-LTF 23.53% กองทุนเปิด MA-LTF 21.49% ขณะที่ผลตอบแทนตลาดอยู่ที่ 20.48%
การที่บริษัทมีกองทุนที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดในสองอันดับแรกของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว เนื่องจากบริษัทได้มีการจัดพอร์ตการลงทุนที่ดี โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีโอกาสที่ราคาเพิ่มสูงขึ้น เช่น กลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ และยังได้มีการปรับกลยุทธการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน