ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังจากสิงคโปร์ได้ยกระดับการประเมินเศรษฐกิจในปีนี้ และราคาบ้านในนิวซีแลนด์ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รวมทั้งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งทะยานขึ้นนำตลาด ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
กระทรวงการค้าสิงคโปร์ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีพ.ศ.2552 จะหดตัวลง 2.5% ซึ่งน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลงราว 4-6% หลังจากจีดีพีขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งภาวะที่ฟื้นตัวเช่นนี้อาจทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,623.33 จุด บวก 123.89 จุด ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนบวก 0.53% แตะ 2,927.02 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,660.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.40 จุด ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,761.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,620.17 บวก 42.81 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,671.81 บวก 19.30 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด
หุ้นจาร์ดีน ไซเคิล แอนด์ แคริเอจ ผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ พุ่ง 2.9% ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ส่วนหุ้นคาวาเลียร์ คอร์ป พุ่ง 3.3% และหุ้นเอสเอค เอ็นเนอจี ร่วง 7.9% ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ หลังจากที่วูรี อินเวสเมนท์ แอนด์ ซิเคียวริตีส์ ระบุว่า บริษัทผู้ทำธุรกิจกลั่นน้ำมันอาจจะรายงานตัวเลขที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ส่วนหุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย อ่อนตัวลง 1.2%
ปราสาด พัดคาร์ เจ้าหน้าที่ของพลาทิพุส แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมาเป็นบวก และความเสี่ยงในเชิงระบบก็ผ่านพ้นไปแล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกก็มีแนวโน้มมากขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่พร้อมกลับมาลงทุน ขณะที่ตลาดปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง