นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างรอกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินคัดเลือกที่ปรึกษาในการขายหุ้นที่กำหนดสรุปผลในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เนื่องจากแผนงานหลายอย่างต้องรอปรึกษากับที่ปรึกษาด้วย โดยเฉพาะแผนขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)1.3 หมื่นล้านบาท จากยอดทั้งหมด 2.3 หมื่นล้านบาท
"ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาซื้อขาย ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาของผู้ที่เสนอราคา ขณะเดียวกันการขาย NPL ดังกล่าวจะต้องหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินด้วยว่าต้องการให้ธนาคารขายหนี้ดังกล่าวออกไปหรือให้บริหารจัดการเอง ซึ่งการขาย NPL ทุก 3,000 ล้านบาทจะช่วยลด NPL ลงได้ 1% หากขายได้ทั้งหมด 1.3 หมื่นล้านบาทจะลด NPL ลงได้ถึง 4% จากปัจจุบันที่มียอด NPL 2.3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 8%"นายชัยวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมองว่าระยะเวลาที่คาดว่ากองทุนฟื้นฟูฯ จะสรุปการขายหุ้น SCIB ในกลางปีหน้าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากยังมีกระบวนการและขั้นตอนที่ต้องทำ หลังจากได้ที่ปรึกษาการเงินก็จะต้องหารือกับธนาคารเพื่อพิจารณากรอบการทำงานและเตรียมข้อมูลในทุกด้าน ก่อนจะประเมินราคาขายหุ้น
ข้อมูลที่ที่ปรึกษาทางการเงินจะต้องศึกษาคือ สินเชื่อของธนาคาร ข้อมูลการลงทุน สินทรัพย์ของธนาคาร รวมทั้งสินทรัพย์รอการขาย(NPA) และยังต้องประเมินคุณภาพเครือข่ายของธนาคาร (Franchise value) ทั้งสาขา และความเป็นธนาคารนครหลวงไทย ขณะที่มูลค่าทางบัญชีขณะนี้อยู่ที่ 19.30 บาท/หุ้น
การที่ธนาคารเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้นสามารถดูข้อมูลในเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยอยู่แล้ว ดังนั้น ในช่วงแรกผู้ที่สนใจลงทุนสามารถแจ้งกรอบการเสนอราคาโดยยังไม่มีราคาผูนพัน(Non Buying Bid) ขึ้นกับความพร้อมในการเข้ามาลงทุน เพราะเจ้าของหุ้นต้องการขายหุ้นในราคาที่ดี ขณะที่ผู้ซื้อต้องการซื้อในราคาที่เหมาะสม คงไม่สามารถระบุได้ว่าราคาที่ซื้อขายหุ้นควรจะอยู่ที่จุดใด นอกจากนี้ยังรวมถึงการที่ผู้ซื้อจะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์)จากผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย
สำหรับผลดำเนินงานในปีนี้ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้เพียง 8,000-15,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 1.8 หมื่นล้านบาท