โบรกฯแนะ"ซื้อ"ROJNA ดีสุดในกลุ่ม ลุ้นขายที่ดิน 100ไร่ Q4/คอนโดฯจีนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 12, 2009 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ หนุน"ซื้อ"หุ้นบมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(ROJNA)มองโดดเด่นหากเทียบในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมด้วยกัน เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีมาบตาพุด เหตุมีรายได้หลักจากการขายไฟฟ้า ขณะที่รายได้จากการขายที่ดินก็ยังมีต่อเนื่อง โดยจะรับรู้รายได้กว่า 400 ล้านบาทจากการขายที่ให้กับโรงงานยาสูบในไตรมาส 3/52 รวมทั้งยังมีรายได้จากการพัฒนาคอนโดฯ ในประเทศจีนเข้ามาต่อเนื่องในอนาคต อีกทั้งราคาปัจจุบันยังมี upside

ROJNA ปิดเช้านี้ที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท (+6.81%) มูลค่าซื้อขาย 117.50 ล้านบาท

          โบรกฯ                         คำแนะนำ               ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.ทรีนิตี้                         ซื้อ                     11.70
          บล.เกียรตินาคิน                    ซื้อ                     12.00
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)    ซื้อ                     10.46
          บล.บัวหลวง                       ซื้อ                     14.40
          บล.เคจีไอ                        ซื้อ                     15.00

นายเถลิงศักดิ์ ตันติพินธวัตร นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ แนะ"ซื้อ"หุ้น ROJNA มองราคาปัจจุบันยังมี upside และในไตรมาส 3/52 จะเติบโตค่อนข้างดี เพราะจะรับรู้รายได้จากการขายที่ดินให้โรงงานยาสูบเกือบทั้งหมดประมาณ 400 กว่าล้านบาท ในไตรมาส 3/52 ซึ่งจะทำให้การเติบโตค่อนข้างดีและยังรวมถึงการขายที่ดินที่จะเพิ่มอีก

ขณะที่ ROJNA รับผลกระทบจาการกรณีมาบตาพุดไม่มาก เพราะรายได้หลักมาจากการขายน้ำและไฟฟ้า ขณะที่รายได้จากการขายที่ดินเป็นส่วนน้อย และรวมถึงโครงการคอนโดฯที่ประเทศจีนค่อนข้างประสบความสำเร็จ เพราะเดิมมีเฟสแรกก็ขายได้ดีประมาณ 70% และเฟส 2 เพิ่มเปิดขายในเดือนก.ย.ก็ทำยอดได้ 20% แล้ว และยังมีพื้นที่รอพัฒนาอีก 2 แปลงก็จะทำให้รายได้จากคอนโดฯค่อนข้างเข้ามาอย่างต่อเนื่องรองรับในระยะ 3-4 ปี ไม่เหมือนกับบริษัทอื่นอย่าง HEMRAJ เมื่อขึ้นโครงการคอนโดฯชิดลมแล้วก็ไม่ได้มีโครงการใหม่อีด ทำให้ปีนี้โตจากคอนโดฯ ปีหน้าก็จะเติบโตลดลง

และผลประกอบการไตรมาส 3/52 เติบโตค่อนข้างดีหากเทียบกับตัวอื่นในกลุ่มเดียวกันอย่าง AMATA ที่มีโอกาสขาดทุนไตรมาส 3/52 แต่ ROJNA ไม่มีขาดทุนเพราะรายได้หลักมาจากขายไฟฟ้าอย่างน้อยก็โชว์ว่าชะลอลงแต่ไม่ขาดทุน แต่ AMATA ก็ขาดทุน HEMRAJ ก็ drop ลงเยอะ น.ส.วิชชุดา ปลั่งมณี นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน มองว่า ROJNA มีความโดดเด่นถ้าเทียบกับกลุ่มเพราะมีเรื่องของรายได้ของคอนโดฯเข้ามา 2 แห่งที่จะทยอยรับรู้ฯ ส่วนหนึ่งรายได้หลักประมาณ 60% มาจากการจำหน่ายไฟฟ้า และในด้านยอดขายที่ดินปีนี้มีลูกค้ารายใหญ่คือโรงงานยาสูบเข้ามา ยอดขายที่ดินจึงดูดีกว่าเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ จากที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 400-500 ไร่ ตอนนี้ขายได้ 350 ไร่เกือบถึง 400 ไร่แล้ว น่าจะเป็นจุดที่ทำให้มองเรื่องของผลประกอบการไม่ได้ drop มากอย่างที่ในกลุ่มต้องประสบกัน

ขณะที่คอนโดฯเฟสแรกในประเทศจีน คือ Kaina Business Plaza ตัและเฟสที่ 2 คือ Kaina Overseas Chinese City นั้น เฟสแรกมียอดขาย 70% แล้วทยอยรับรู้ฯ จนถึงปีหน้า และในส่วนเฟสที่ 2 คงจะเริ่มรับรู้ฯ ในปี 53 และทยอยรับรู้ฯต่อเนื่อง จึงให้ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท ยังมี upside เหลือราว 20% กว่า

"ปีนี้กระทบในเรื่องของยอดขายโดยรวมก็อาจจะทำให้ยอดขายที่ดินอาจจะไม่ค่อยดีนักในกลุ่มทั้ง AMATA HEMRAJ อย่างปีหน้าถ้าเม็ดเงินหรือการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาก็อาจจะทำให้ยอดขายที่ดินของแต่ละที่ก็อาจจะฟื้นตัวขึ้น"น.ส.วิชุดา กล่าว

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)กล่าวว่า ROJNA ถือว่าดีที่สุดในกลุ่มนิคมฯ ปัจจัยหลักมาจากยอดขายที่ดินที่ outperform กลุ่ม เพราะมีการขายที่ดินล็อตใหญ่ให้โรงงานยาสูบและจะมีอีกล็อตหนึ่งประมาณ 100 ไร่ในไตรมาส 4/52

คอนโดฯที่ประเทศจีนก็ดี เฟสแรกพรีเซลล์ไปแล้ว 70% เฟส 2 เพิ่งเปิดไปเมื่อเดือนกว่าที่ผ่านมาก็ทำพรีเซลล์ไปแล้ว 20% โดยรวมก็ถือว่าดี ให้ราคาเป้าหมาย 10.46 บาท ยังเหลือ upside เล็กน้อย

นายคมสันต์ ปรมาภูติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท ประเด็นหลักคือการรับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนิคมฯตัวอื่นอาจจะมีผลกระทบเรื่องมาบตาพุดแต่ ROJNA ไม่ได้รับผลกระทบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ