นายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทกำลังเตรียมเสนอแผนระยะ 3 ปี(ปี 53-55)ให้คณะกรรมการของบริษัทฯพิจารณาในช่วงปลายเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นแผนงานลดต้นทุนแบบยั่งยืนถาวร และต้องใช้เม็ดเงินลงทุนพอสมควร
"แผนระยะ 3 ปี ของบริษัทฯที่จะเสนอบอร์ดนี้จะเป็นแผนการลดต้นทุนแบบถาวรและต่อเนื่อง ซึ่งก็มีหลาย project ส่วนหนึ่งก็จะมีเรื่องของ Logistic แบบลดต้นทุนการขนส่งลงด้วย แผนการลดต้นทุนนี้จะไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯอย่างแน่นอน ในช่วงที่เหลือของปีนี้ระยะ 2-3 เดือนบริษัทฯคงจะไม่มีการลงทุนอะไรแล้ว"นายสมยศ กล่าว
นายสมยศ กล่าวว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 52 ในแง่ของรายได้คาดว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก แต่โดยรวม ๆ แล้วทั้งปี 52 รายได้น่าจะออกมาใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่มีรายได้ 2,358 ล้านบาท โดยครึ่งแรกปีนี้รายได้ของบริษัทฯทำรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทแล้ว และ 9 เดือนแรกของปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ราว 1.5 พันล้านบาท
"ไตรมาส 3 ปีนี้รายได้อาจจะต่ำกว่าไตรมาส 3 ปีที่แล้ว แต่จะสูงกว่าไตรมาส 2 ปี 52 ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมาคาดว่ารายได้ออกมาพอ ๆ กันกับงวดเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจจะแย่หน่อย ส่วนมาร์จินปีนี้ก็คาดว่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะปีนี้เจอวิกฤตเศรษฐกิจ ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว กำไรจะดีเหมือนปีที่แล้วคงจะเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งการที่กำไรสุทธิปีนี้อาจจะไม่โตยังมาจากธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงด้วย"นายสมยศ กล่าว
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ AGE กล่าวว่า บริษัทฯคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณการขายถ่านหินประมาณ 950,000-1,000,000 ตัน เพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้วที่มีปริมาณขายถ่านหิน 840,000 ตัน บริษัทยอมรับว่าแม้ปริมาณการขายถ่านหินจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายต่อหน่วยลดลง ทำให้อัตรากำไร(มาร์จิน)ลดลง
สำหรับปี 53 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปี 52 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปีนี้บริษัทได้ขยายฐานลูกค้าและเปิดคลังสินค้าครบ 4 แห่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยล่าสุดเปิดแห่งที่ 4 ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ครอบคลุมการให้บริการลูกค้าจากภาคตะวันออกไปถึงภาคอีสานตอนใต้ รวมไปถึง จ.นครราชสีมา ซึ่งการเปิดคลังสินค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศจะทำให้บริษัทฯมีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาขายถ่านหินดีขึ้น
"โดยปกติราคาขายถ่านหินจะบวกค่าขนส่งด้วย ถ้าคลังสินค้าไปอยู่ใกล้กับลูกค้าก็จะมีการบวกค่าขนส่งที่น้อยลง ทำให้แข่งขันด้านราคากับคนอื่นได้มากขึ้น และเราตั้งเป้าว่ารายได้ในปี 53 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปี 52"ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ AGE กล่าว