ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเช้านี้ หลังจากที่หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์อ่อนตัวลงจนบดบังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นขานรับอินเทลเปิดเผยการคาดการณ์ยอดขายที่สูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของภาคเอกชน หลังจากบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยรายได้ที่น้อยเกินคาด นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายหลังจากนักวิเคราะห์ชื่อดังได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโกลด์แมน แซคส์
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,096.01 จุด เพิ่มขึ้น 19.45 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,642.10 จุด เพิ่มขึ้น 13.17 จุด ขณะที่ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,649.07 บวก 52.47 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,782.10 จุด ลดลง 3.60 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,673.54 บวก 5.14 จุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ลบ 0.2% แตะ 118.77 จุด เมื่อเวลา 10.01 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล ร่วง 3.4% ส่วนหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บวก 1.3% หลังจากอินเทลเผยคาดการณ์ และหุ้นวูลเวิร์ท บวก 1.4% ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น
เนเดอร์ ไนอิมิ นักวิเคราะห์ของเอเอ็มพี แคปิตอล อินเวสเตอร์ส กล่าวว่า ผลประกอบการกำลังฟื้นตัวขึ้นแต่นักลงทุนยังคงนอดูหลักฐานการฟื้นตัวที่มีความชัดเจนมากกว่านี้ ผลประกอบการของอินเทลนั้นช่วยหนุนตลาดได้มาก เพราะชี้ให้เห็นถึงดีมานด์ที่แข็งแกร่ง