ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 144.80 จุด ขานรับผลประกอบการ"เจพีมอร์แกน"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 15, 2009 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และอินเทล คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคักเพราะมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 144.80 จุด หรือ 1.47% ปิดที่ 10,015.86 จุด ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 32.34 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 2,172.23 จุด และดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 18.83 จุด หรือ 1.75% ปิดที่ 1,092.02 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ เปิดเผยกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 6.8 เท่า ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากรายได้จากตราสารหนี้ทะยานขึ้น

โดยกำไรไตรมาส 3 ของเจพีมอร์แกนปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.59 พันล้านดอลลาร์ หรือ 82 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 527 ล้านดอลลาร์ หรือ 9 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์โพลล์บลูมเบิร์กคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 51 เซนต์ต่อหุ้น

เจพีมอร์แกนเป็นธนาคารใหญ่รายแรกของสหรัฐที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ มีกำหนดการเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่ากำไรอาจสูงเกือบ 3 เท่าแตะ 2.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนซิตี้กรุ๊ป ซึ่งมีกำหนดที่จะรายงานผลประกอบการวันพรุ่งนี้เช่นกัน อาจขาดทุนถึง 2.55 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะนับเป็นไตรมาสที่ 6 ในรอบ 8 ไตรมาสที่ซิตี้กรุ๊ปไม่สามารถทำกำไรได้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากบริษัท อินเทล คอร์ป ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สุดของโลกที่รายงานว่า กำไรสุทธิในช่วงไตรมาสสามอยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 33 เซนต์/หุ้น เทียบกับปีก่อนนี้ที่ 2.01 พันล้านดอลลาร์ หรือ 35 เซนต์/หุ้น แต่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 28 เซนต์/หุ้น

ฟิล ออร์แลนโด นักวิเคราะห์จากบริษัท Federated Investors Inc ในนิวยอร์กกล่าวว่า "ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเจพีมอร์แกน และอินเทล เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ผลประกอบการที่ดีเกินคาดของอินเทลทำให้เกิดความคาดหวังว่าอุตสาหกรรมชิพคอมพิวเตอร์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และผลประกอบการที่สดใสของเจพีมอร์แกน ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าปัญหาในภาคการเงินของสหรัฐกำลังจะสิ้นสุดลง"

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกนปิดพุ่ง 3.3% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 4.4% หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ปิดบวก 4.3%

หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวเซส์ ปิดบวก 2.8% หุ้นเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิก เอ็นวี ปิดบวก 2.6% ส่วนหุ้นเอ็กซอนโมบิล ปิดพุ่ง 2.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ