นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นทรุดตัวลงไปแรงกว่า 5% หรือเกือบ 40 จุดในช่วงระหว่างการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้เป็นผลมาจากการเทขายของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องมาจากความกังวลในกระแสข่าวลือด้านลบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับโบรกเกอร์ต่างชาติที่ได้สอบถามจากลูกค้า พบว่านักลงทุนต่างชาติมีการเทขายหุ้นออกมาจากพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงจากความตื่นตกใจในระยะสั้น และบางส่วนก็ต้องการปรับพอร์ต หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างรุนแรงกว่า 65% แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลท.อยากให้นักลงทุนติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดจากแถลงการณ์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ไม่ควรตื่นตระหนกกับกระแสข่าวลือ เพราะอาจทำให้เสียโอกาสในการลงทุนหรือตัดสินใจผิดพลาด เนื่องจากหากมองปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่จะมาทำให้กระแสการลงทุนเปลี่ยนทิศทางไป
ในขณะที่ระบบของ ตลท.ได้เตรียมพร้อมทุกด้านไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบเซอร์กิต เบรกเกอร์ ที่จะมีการสั่งพักการซื้อขายชั่วคราวหากดัชนีเปลี่ยนแปลงถึง 10% หรือการรองรับการส่งคำสั่งซื้อขายในปริมาณมาก ๆ ดังนั้น นักลงทุนไม่ต้องกังวลว่าระบบของ ตลท.จะรองรับไม่ได้ อย่างกรณีของเมื่อวานนี้ปริมาณการซื้อขายสูงถึง 4.4 หมื่นล้านบาท แต่ก็คิดเป็นแค่ 25% ของ capacity ระบบเท่านั้น
แต่ ตลท.ก็ยังเชื่อว่าสถานการณ์ซื้อขายหุ้นในภาคบ่ายน่าจะดีขึ้นกว่าภาคเช้า หลังจากที่นักลงทุนได้ติดตามข่าวและรับข้อมูลต่าง ๆ มากขึ้น น่าจะทำให้การตัดสินใจมีความรอบคอบมากขึ้น รวมทั้งมีการเทขายหุ้นกันออกมามากแล้ว
"เมื่อตอนเช้าก็ขายกันมาเยอะ ช่วงบ่ายเมื่อนักลงทุนพิจารณาและได้รับข้อมูลที่มากขึ้นก็อาจจะทำให้นักลงทุนมีความรอบคอบในการตัดสินใจได้มากขึ้น เพราะการปรับตัวลดลงมาถือว่าผิดปกติ"นางภัทรียา กล่าว
นางภัทรียา ยังเปิดเผยว่า จากการเทขายหุ้นในช่วงเช้า ยังไม่เห็นการฟอร์ซเซลที่ผิดปกติ เพราะปริมาณการปล่อยมาร์จิ้นของโบรกเกอร์ในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ได้สูงมาก โดยเฉพาะหุ้นตัวที่มีปัญหา ปกติโบรกเกอร์ก็ลดการให้มาร์จิ้นอยู่แล้ว