โบรกเกอร์ ต่างแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC)มองแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวมีความโดดเด่นจากบริการ 3G ที่แม้หากการประมูลใบอนุญาตอาจเลื่อนออกไปบ้าง ก็จะไม่กระทบอย่างเป็นนัยสำคัญต่อบริษัท เนื่องจากสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากบริการเดิมอยู่แล้ว ขณะที่ความพร้อมในการลงทุน 3G มีสูงที่สุดในกลุ่ม หากมี 3G เข้ามาก็จะช่วยหนุนให้ดียิ่งขึ้นไป และยังเชื่อว่าการประมูล 3G จะไม่ล้มเลิกไปแน่นอน
ด้านผลประกอบการของบริษัทคาดว่าจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 3/52 และเริ่มผงกหัวขึ้นในไตรมาส 4/52 จากนั้นจะเห็นอัตราเติบโตชัดเจนในปีหน้าตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมทั้งแนะอาศัยจังหวะเข้าลงทุนในช่วงตลาดขาลงหรือพักฐาน
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 118.00
บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 115.00
บล.กิมเอ็งฯ ซื้อ 113.00
บล.ฟิลลิป ซื้อ 113.00
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 108.00
บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 104.30
บล.กสิกรไทย ซื้อ 100.00
น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หากการประมูลใบอนุญาต 3G จะล่าช้าไป 2-3 เดือนจากที่คาดไว้ในเดือนธ.ค.52 หรือ ม.ค. 53 ส่งผลกระทบเพียงรายได้เพิ่มขึ้นล่าช้าเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ถึงกับต้องปรับประมาณการรายได้หรือปรับราคาเป้าหมาย
เพราะเราคาดว่าถึงแม้จะเปิดประมูลตามกำหนดการหรือล่าช้าไปบ้าง แต่กว่าจะเปิดให้บริการจะเป็นกลางปีหน้า ถ้าเลื่อน 2-3 เดือนก็ไม่ได้ถือเป็นข่าวร้ายอะไร ถ้าเกิดยกเลิกไปเลยก็มองว่าแทนที่จะทำให้ ADVANC เป็น Growth Company ก็จะคงสถานะเป็น dividend play คือมีรายได้ไปเรื่อยๆตามการบริโภคไม่หวือหวา อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นไปได้ยากที่จะมีการยกเลิกการประมูล
สำหรับปัจจัยบวกจากใบอนุญาต 3G คือ เอกชนผู้ให้บริการโทรมือถือรายเดิมก็จะลดต้นทุนไปได้ โดยประเมินเป็นการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐลดลงเหลือ 6-7% จากที่ต้องจ่ายภายใต้สัญญาสัมปทานที่ 25-27% ก็จะทำให้มาร์จิ้นกว้างขึ้น และเมื่อมองคุณสมบัติ ADVANC ได้เปรียบด้านความพร้อมเรื่องเงินลงทุนมากกว่ารายอื่น ๆ
ด้านนายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)ยังยืนยันว่าจะมีการประมูลใบอนุญาต 3G อยู่ และรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็เห็นควรให้เร่งการประมูลให้เร็วที่สุด ก็ไม่น่าถึงกับจะทำให้การประมูล 3G ต้องล้มเลิกไป
อย่างไรก็ตาม ถ้ายังไม่รวมปัจจัยเรื่อง 3G ตัวหุ้น ADVANC ก็ยังน่าซื้ออยู่ด้วยตัวของเขาเองแม้จะไม่มี 3G แต่ถ้ามี 3G ก็จะทำให้ดีขึ้นอีก แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าการมี 3G จะดีขึ้นมาก เพียงแต่มองว่าถึงจะไม่มี 3G ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับเขา เพียงแต่ Growth ในอนาคตก็คงไม่ได้มากอย่างที่คาดหวังไว้เท่านั้นเอง แต่ก็ยังมีกำไรเติบโตไปได้เรื่อยๆ
"ต้องยอมรับว่าธุรกิจนี้อิ่มตัวแล้วพอสมควร เพราะผู้ใช้ยอบลง แต่ก็ยังกำไร ถ้าไม่มี 3G ตัวธุรกิจของเขาเองก็ไม่มีปัญหา 3G ได้มาก็เป็น PLUS ได้มาหรือไม่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหาย ราคาหุ้นลงมาก็น่าเข้าซื้อ"นายกวี กล่าว
บทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรีอยุธยา ระบุว่า การประมูลใบอนุญาตใหม่ 3G ปัจจุบันทาง กทช.อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์เงื่อนไขใบอนุญาต และเตรียมเปิดประชาพิจารณ์อีกครั้งวันที่ 5 พ.ยนี้ โดยทางกทช.ยังคงตั้งเป้าจะเปิดประมูลให้ทันภายในเดือน ธ.ค.52 นี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นการคัดค้านการออกใบอนุญาตใหม่ 3G ของทางสหภาพ กสท และ TOT อีกทั้งมีหลายขั้นตอนที่ทาง กทช.ต้องดำเนินการแก้ไข อาทิ การกำหนดเรื่องคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล และการกำหนดราคากลางในการประมูล รวมทั้งการหาแนวทางที่จะช่วยเหลือไม่ให้ TOT และ CAT ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจที่จะทำให้การประมูลมีโอกาสล่าช้าออกไปเล็กน้อย
"เรามองว่ามีโอกาสที่การประมูลใบอนุญาต 3G มีโอกาสที่จะล่าช้ากว่าที่ กทช.ตั้งเป้า แต่เชื่อว่าไม่เกินในไตรมาส 1ปี 53 ซึ่งยังเป็นไปตามสมมติฐานของเรา"บทวิเคราะห์ กล่าว
บล.กรุงศรีอยุธยา ยังมองประเด็นการประมูล 3G จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์ จากต้นทุนสัมปทานจ่ายที่ปรับลดลงจากปกติที่ 25% เหลือ 6.5% โดย ADVANC ถือเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูงสุดในการประมูลใบอนุญาต3G จากกระแสเงินสดในมือที่มี 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งเงินทุนเหมือน TRUE หรือ DTAC อีกทั้งยังมีเครือข่ายให้บริการครอบคลุมพื้นที่สูงสุดในกลุ่ม ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคได้ดีกว่าคู่แข่ง
นอกจากนี้ คาดว่าผลประกอบการของ ADVANC จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นใน 4Q52 ตามฤดูกาลและเติบโต YoY เป็นไตรมาสแรกของปี และมีแนวโน้มจะกลับมาเติบโตในปี 53 ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ในขณะที่ประเด็นการประมูลใบอนุญาตใหม่ 3G ที่มีโอกาสล่าช้าออกไป อาจส่งผลลบในระยะสั้นต่อกลุ่มสื่อสาร