กลุ่ม PTT ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดทุเลาคำสั่งระงับโครงการมาบตาพุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 16, 2009 16:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ. ปตท. (PTT) กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่ม ปตท. ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโครงการของกลุ่ม ปตท. จากคำสั่งศาลปกครองกลางที่ให้หน่วยงานของรัฐระงับโครงการหรือกิจกรรมการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยองไว้เป็นการชั่วคราวแล้ว

ปตท.ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ของภาครัฐที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมือดำเนินการตามมาตรา 67 ซึ่งนอกจากกลุ่ม ปตท.จะดำเนินงานตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวด และปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายของภาครัฐอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการตรวจสุขภาพประจำปีของพนักงานจำนวน 3,000 คน จาก 11 บริษัทของกลุ่ม ปตท. ในพื้นที่ระยอง ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่พบว่าพนักงานมีความผิดปกติใดๆ โดยเฉพาะ โรคมะเร็ง อันเกิดจากการปฏิบัติงานภายในโรงงาน

นายปรัชญา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการลงทุนของกลุ่ม ปตท.ทั้ง 25 โครงการเป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)เรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีการวางแผนและลงทุนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากจะไม่ทำให้มลพิษในพื้นที่สูงขึ้น ยังกลับจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น โครงการผลิตและปรับปรุงน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐานยูโร 4 (EURO IV) ที่ช่วยลดสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ที่เกิดจากไอเสียรถยนต์ โครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำทิ้งเพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ และ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังกลุ่มโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งเป็นการขนส่งในระบบปิดและไม่มีกระบวนการผลิตที่ต้องปลดปล่อยสารใดๆ ออกสู่ภายนอก

โครงการของกลุ่ม ปตท.16 โครงการ เป็นโครงการที่ไม่มีการระบายก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) หรือก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) อีก 5 โครงการมีการจัดการและควบคุมมลพิษทางอากาศตามมาตรฐานการปรับลดและสำรองสัดส่วนค่าระบายมลพิษตามที่รัฐกำหนด (มาตรการ 80:20) และอีก 4 โครงการใช้อัตราการระบายมลพิษต่อพื้นที่ตามกรอบการระบายมลพิษต่อพื้นที่ที่นิคมอุตสาหกรรมกำหนด

รวมทั้ง บางโครงการยังเป็นโครงการสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่อใช้ในโรงงาน อาทิ เข่น โครงการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อนำไอน้ำที่ผลิตได้เองจากโครงการมาเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า

หากโครงการต่างๆ ดังกล่าวถูกระงับ นอกจากจะทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังไม่ส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรน้ำของท้องถิ่นอย่างคุ้มค่าอีกด้วย ทั้งนี้ ภาครัฐกำลังเร่งดำเนินการ เพื่อผลักดันให้เกิดความชัดเจนและมีการออกระเบียบกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเร็วที่สุด โดยกลุ่ม ปตท. ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ