นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย(THAI)ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยกำหนดให้ 2 ปีแรกเป็นระยะของการเร่งฟื้นฟูกิจการการบินไทยให้กลับมามีกำไรในระดับปกติ ส่วน 3 ปีหลังจะผลักดันให้การบินไทยกลับมาครองตำแหน่งสายการบินชั้นนำติด 1 ใน 5 ของโลก
นายปิยสวัสดิ์ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ THAI ในปี 53 ในระดับ 18% เป็น 1.8 แสนล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1.56 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 51 ที่มีรายได้ 2.1 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกัน จะต้องเร่งปรับโครงสร้างทางเงิน โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ระยะสั้นที่มีอายุมากกว่าสินทรัพย์ โดยในปีหน้าบริษัทจะดำเนินการยืดอายุหนี้จากเฉลี่ย 5-6 ปี ให้สอดคล้องกับสินทรัพย์ที่อายุการใช้งานของเครื่องบินอยู่ที่ประมาณ 20 ปี รวมทั้งการเพิ่มทุน ซึ่งจะได้มีการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินต่อไป และยังคงมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่น้ำมันต่อเนื่องจากปีนี้ โดยตั้งเป้าลดลงให้ได้ 1 หมื่นล้านบาทในปีหน้า รวมทั้ง การงดสิทธิพิเศษกับผู้บริหารด้วย แต่จะงดปรับขึ้นเงินเดือนหรือโบนัสกับพนักงานขึ้นอยู่กับผลประกอบการ
"คิดว่าภายในสิ้นปีนี้เราน่าจะมีความชัดเจนเรื่องการปรับโครงสร้างทางการเงิน...เรื่องเพิ่มทุนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ต้องรอปรึกษาที่ปรึกษาก่อน ภายในปีหน้าเราจะทำให้ D/E เหลืออยู่ที่ 2 ต่อ 1 เพราะตอนนี้ D/E ของเราสูงอยู่ที่ 3 เท่ากว่า"นายปิยสวัสดิ์ กล่าวในการแถลงข่าววันนี้
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า เหตุผลหลักที่บริษัทเตรียมเพิ่มทุนในปีหน้า เพราะหนี้สินของบริษัทมีจำนวนสูงมากถึง 1.6 แสนล้านบาท โดยปีหน้ามีหนี้จำนวน 2.9 หมื่นล้านบาทที่จะครบกำหนดชำระ ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังมีแผนปรับปรุงที่นั่งภายในเครื่องบิน ประมาณ 18 ลำ ดังนั้น ใน 2 ปีนี้บริษัทจะต้องมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงินและผลิตภัณฑ์
สำหรับผลประกอบการปี 52 นายปิยะสวัสดิ์ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะมีกำไรหรือไม่ เพราะแม้จะมีปริมาณผู้โดยสารมาก อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)เพิ่มขึ้นก็จริง แต่รายได้ไม่ได้เพิ่มตาม เพราะมีการแข่งขันตัดราคากันมาก ฉะนั้น บริษัทจะร่วมมือกับสายการบินนกแอร์ ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในการให้ความร่วมมือเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่น อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าบริษัทก็หวังว่าจะมีกำไร
"ในช่วง 2 ปีแรก การบินไทยจะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง และมีผลิตภภัณฑ์ การบริการ การเงินที่ดี อีก 2 ปีหลังก็จะก้าวต่อไป ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก..ตอนนี้เราเน้นเพิ่มรายได้ให้เร็ว" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้นั้น นอกเหนือจากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันแล้ว บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันควบคู่ไปด้วย และจะดูลงลึกไปแต่ละเส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่บินตรง ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายน้ำมันมาก ก็อาจจะทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันไว้ก่อน
ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของการบินไทย มีแนวทางสร้างองค์กรให้มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการชองลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา, ต้องเป็นองค์กรที่สามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยจะต้องมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งรองรับการแข่งขั้น และ เป็นองค์กรที่คล่องตัว สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก เพื่อจะได้เป็นองค์กรที่ยั่งยืนต่อไปเป็น 100 ปี (ปีหน้าครบรอบ 50 ปี)