ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ระบุว่า ผลการประกอบการของธนาคารในไตรมาส 3/52 มีกำไรสุทธิ 5,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172 ล้านบาทเทียบกับไตรมาส 2/52 สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 567 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 169 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง 113 ล้านบาท แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิลดลง 674 ล้านบาท
หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/51 ธนาคารมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 790 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.8 เนื่องจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3,144 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนลดลง 2,503 ล้านบาท
ในช่วงไตรมาส 3/52 ธนาคารมีกำไรต่อหุ้น 2.62 บาท เพิ่มขึ้นจาก 2.53 บาทในไตรมาส 2/52 และเพิ่มขึ้นจาก 2.21 บาท ในไตรมาส 3/51 อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถัวเฉลี่ยไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.16 ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 10.53
ณ สิ้นเดือน ก.ย.52 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ 1,090,587 ล้านบาท ลดลง 81,129 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.9 จากสิ้นปี 51 ในขณะที่มีเงินฝาก 1,333,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,068 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7
เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ 30 ก.ย.52 มีจำนวน 56,813 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.7 ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก ณ 31 ธ.ค.51 จำนวน 2,177 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.0 แต่ลดลง 773 ล้านบาท เทียบกับ ณ 30 มิ.ย.52
ธนาคารมีค่าใช้จ่ายสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 3/52 จำนวน 1,904 ล้านบาท และมีสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสม ณ สิ้นเดือน ก.ย.52 จำนวน 63,666 ล้านบาท ขณะที่สำรองตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) 35,749 ล้านบาท เปรียบเทียบแล้วธนาคารมีสำรองสูงกว่าเกณฑ์ของ ธปท.จำนวน 27,917 ล้านบาท หรือร้อยละ 78.1 และธนาคารมีสัดส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นร้อยละ 112.1 เทียบกับร้อยละ 107.5 ณ สิ้นเดือน มิ.ย.52