ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 725.60 จุด ลดลง 6.01 จุด(-0.82%) มูลค่าการซื้อขาย 29,198 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ตลอด โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 739.00 จุด จากนั้นช่วงบ่ายดัชนีเริ่มปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบจนกระทั่งปิดตลาด โดยดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 723.58 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 140 หลักทรัพย์ ลดลง 231 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 85 หลักทรัพย์
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีการปรับฐานลงในช่วงบ่าย โดยมีแรงขายทำกำไรออกมา
ประกอบกับนักลงทุนยังคงมีกังวลกับเรื่องของค่าเงินบาทที่ยังมีการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับในภูมิภาคซึ่งก็สวนทางกันมาคิดว่าเงินทุนต่างชาติยังคงชะลอกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับพอตลาดมีการอ่อนตัวลงมาหลุด 730 จุด sentiment ก็ไม่ค่อยดีและจะใกล้ช่วงวันหยุดยาวในสัปดาห์นี้ด้วยก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาโดยเฉพาะในกลุ่มแบงก์ซึ่งก็ประกาศงบฯกันออกมาเกือบครบหมดแล้วน่าจะเป็น Sell on Fact เกิดขึ้น
ทิศทางพรุ่งนี้น่าจะชะลอตัวเป็น sideway มากขึ้น ประเด็นที่จะต้องติดตามในช่วงนี้อย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องตลาดหุ้นที่สหรัฐ และราคาน้ำมันดิบว่าจะยังไต่ระดับขึ้นไปทะลุ 80 เหรียญฯได้หรือไม่ สำหรับ NYMEX
ส่วนประเด็นในประเทศคงต้องดูค่าเงินบาทว่ามีการอ่อนค่าลงไปผิดปกติหรือไม่ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน และปลายสัปดาห์นี้จะมีการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงระบุว่าจะมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้นำชาติต่าง ๆ ของอาเซียน เพื่อประท้วงรัฐบาล ซึ่งอาจจะกลายเป็นประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติอาจจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนการเมือง เพราะฉะนั้นช่วง 1-2 วันจากนี้ไปน่าจะเห็นตลาดชะลอตัวมากขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,086.59 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,733.29 ล้านบาท ปิดที่ 261.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,610.20 ล้านบาท ปิดที่ 3.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,216.25 ล้านบาท ปิดที่ 452.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,170.28 ล้านบาท ปิดที่ 9.35 บาท ลดลง 0.20 บาท