ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 50.71 จุด หลังข้อมูลอสังหาฯสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 21, 2009 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่สูงเหนือความคาดหมายของบริษัทหลายแห่งได้ช่วยพยุงตลาดไว้ไม่ให้ร่วงลงมากนัก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 50.71 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 10,041.48 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.85 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 1,091.06 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 12.85 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 2,163.47 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.24 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.15 พันล้านหุ้น

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.5% แตะที่ 590,000 ยูนิตในเดือนก.ย. และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างลดลง 1.2% แตะที่ 573,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 610,000 ยูนิต และตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 610,000 ยูนิตในเดือนก.ย.

ท็อด ซาโลเม นักวิเคราะห์จากบริษัท อินเวสต์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวกับเอพีว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่น่าผิดหวังในเดือนก.ย.ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ รวมถึงทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงดูปองท์ โค ผู้ผลิตสารเคมีรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ ที่รายงานผลกำไรไตรมาสสามเพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากการลดจำนวนพนักงานและต้นทุนวัตถุดิบได้ช่วยชดเชยยอดขายที่ร่วงลง

ขณะที่โคคา-โคล่า ผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่สุดของโลก เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสสามอยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 81 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 1.89 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้านี้ พร้อมกับเปิดเผยว่ายอดขายของบริษัทปรับตัวขึ้นในตลาดเกิดใหม่ ได้แก่ อินเดีย จีน และบราซิล โดยยอดขายในจีนและอินเดียพุ่งขึ้น 15% และ 37% ตามลำดับ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ย. และวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 5.35 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และคาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.9%

หุ้นแอปเปิลปิดพุ่ง 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสสามพุ่งขึ้น 47% แตะที่ระดับ 1.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.82 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 25% แตะระดับ 9.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ปิดบวก 14 เซนต์ แตะที่ 23.66 ดอลลาร์ หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ปิดพุ่ง 3% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ปปิดบวก 4.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ