นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า แผนศึกษาการควบรวมกิจการบริษัทโรงกลั่นน้ำมันในกลุ่ม ปตท.4 แห่งคงจะยังไม่สรุปภายในเดือน ต.ค.นี้ แต่คาดว่าภายในปีนี้จะดำเนินการควบรวมกิจการได้ โดยจะนัดหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ขณะเดียวกันจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องมาบตาพุดพร้อมกันด้วย หลังจากที่กลุ่ม ปตท.ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองที่ให้ระงับโครงการลงทุนในมาบตาพุดไปแล้ว
"การศึกษาควบรวมคงจะไม่เสร็จแน่ในเดือนนี้ เดือนหน้าเราค่อยมาว่ากันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ก็ต้องดูสถานการณ์ต่างๆควบคู่ไปด้วย เรื่องควบรวมเราคงทำควบคู่ไปกับการแก้ปัญหามาบตาพุด ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการขยับแผนภายในของเราว่าจะเดินหน้าอย่างไร" นายประเสริฐ กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน PTT ระบุ ปตท.มีแผนจะดำเนินแผนควบรวมกิจการโรงกลั่นในเครือ ให้เสร็จภายใน พ.ย.นี้ แต่เนื่องจากมีปัญหาการสั่งระงับโครงการในมาบตาพุดทำให้แผนงานต้องเลื่อนออกไป
ส่วนการปรับขึ้นราคาขายปลีกในวันนี้ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบประมาณ 10 เหรียญ/บาร์เรล ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นประมาณ 2 บาท/ลิตร จึงทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นจาก 65 เหรียญ/บาร์เรล ปรับเพิ่มเป็น 75-76 เหรียญ/บาร์เรล ชณะที่ น้ำมันดีเซลสำเร็จรู)เพิ่ม จาก 72 เหรียญ/บาร์เรล เป็น 82-83 เหรียญ/บาร์เรล และ ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูปเพิ่มจาก 70 เหรียญ/บาร์เรล เป็น 80 เหรียญ/บาร์เรล