ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ประกาศให้ บมจ. เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมจากประเด็นงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแสดงว่าส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์"
ทั้งนี้ ตลท.ขอให้ SECC แจ้งข้อมูลมาภายใน 20 พ.ย.52 ให้ทราบถึงทางเลือกของบริษัทว่าบริษัทจะทำแผนปรับปรุงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานเสนอผู้ถือหุ้น หรือจะฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย หรือจะขอเพิกถอนโดยสมัครใจ หรือมีทางเลือกอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท ตลอดจนระยะเวลาการดำเนินการในทางเลือกดังกล่าว
ตามที่ตลท.ประกาศให้หลักทรัพย์ของ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และคงเครื่องหมาย SP (Suspension) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.52 พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.52 เนื่องจาก SECC ยังมิได้นำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.51 ต่อตลท.ล่าช้าเกินกว่า 180 วัน และเมื่อวันที่ 13 ต.ค.52 SECC ได้นำส่งงบการเงินฯ ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์กล่าวคือติดลบ 573,962,783 บาท และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว เนื่องจากถูกจำกัดของเขตการตรวจสอบโดยผู้บริหาร และระบบควบคุมภายในมีจุดบกพร่องที่มีสาระสำคัญอย่างมาก
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของจำนวนหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น จากการที่ถูกลูกค้าร้องเรียนและฟ้องร้องดำเนินคดีจำนวนมาก และจากสถาบันการเงินเกี่ยวกับการผิดสัญญาและตั๋วสัญญาใช้เงินและการเลิกจ้างพนักงานบริษัทและบริษัทย่อย ซึ่งยังไม่ได้ประมาณมูลค่าความเสียหาย อีกทั้ง ปัญหาการดำเนินงานต่อเนื่อง จากการที่บริษัทมีผลขาดทุน 1,858,674,430 บาท ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 573,962,783 บาท