นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)รายงานผลการตรวจสอบกรณีการปล่อยข่าวลือในตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ผลเบื้องต้นพบความผิดปกติในบัญชีซื้อขายหุ้น 2 บัญชีก่อนที่ดัชนีหุ้นจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง และยังพบปริมาณการซื้อขายที่ผิดปกติในหุ้นบางกลุ่มด้วย
ทั้งนี้ ก.ล.ต.จะขอความร่วมมือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)เพื่อยกระดับการตรวจสอบในเชิงลึก รวมทั้งจะขอความร่วมมือจากต่างประเทศในการตรวจสอบบัญชีซื้อขายหุ้นทั้ง 2 บัญชีเพื่อหาเจ้าของบัญชีที่แท้จริง เพราะพบว่าเป็นลักษณะบัญชีรวมที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อเจ้าของบัญชี และมีความเชื่อมโยงในประเทศและนอกประเทศ
นอกจากนี้ ก.ล.ต.และ DSI จะตรวจสอบเพื่อเชื่อมโยงว่าบัญชีดังกล่าวมีการเชื่อมโยงกับแหล่งที่มาของข่าวลือหรือไม่ อย่างไร
"หากเจาะลึกเพื่อหาเจ้าของบัญชีที่แท้จริงในการขายหุ้นจากต่างประเทศ คงทำได้ไม่ยาก ประเด็นตอนนี้คือต้องเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ขายหุ้นก่อนหุ้นทรุดตัว กับแหล่งที่มาของข่าวลือ ซึ่งมีทั้งบัญชีในและต่างประเทศ เรื่องนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เยอะ"นายกรณ์ กล่าว
ส่วนการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และตลาดอื่น ๆ นั้น ก.ล.ต.ยังไม่พบธุรกรรมที่ผิดปกติในตลาดตราสารอนุพันธ์(TFEX) แต่ยอมรับว่ามีบางบัญชีที่มีการขายหลักทรัพย์ก่อนราคาหุ้นจะผันผวนจากกระแสข่าวลือ และจะมีการตรวจสอบถึงความเชื่อมโยงของแหล่งที่มาของข่าวลือในแหล่งอื่นๆ ด้วย
ขณะเดียวกัน หลังจากหุ้นปรับร่วงลงรุนแรงจากข่าวลือ ยังพบว่ามีการเข้ามาซื้อหุ้นบางกลุ่มในปริมาณที่มากผิดสังเกต แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นความผิดปกติที่เกี่ยวโยงกับข่าวลือหรือไม่ คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อน
รมว.คลัง ยืนยันว่า ผู้ที่สร้างความเสียหายต่อตลาดหุ้นและละเมิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.ในฐานะผู้กำกับดูแลจะต้องมีท่าทีที่ชัดเจนในการดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อผู้ลงทุน ตลาดหุ้น และกระทบความเชื่อมั่นต่อภาพรวมของประเทศ
"ระยะเวลาการตรวจสอบต้องไปถามผู้ที่ปฏิบัติงาน แต่จุดนี้ผมและนายกรัฐมนตรีกังวลเรื่องที่ผู้สร้างความเสียหายละเมิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่ง ก.ล.ต.ที่ดูแลเรื่องนี้ต้องชัดเจน" รมว.คลัง กล่าว