นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์(SPACK)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอดขายเริ่มกระเตื้องในช่วงปลายไตรมาส 3/52 และยังทำกำไรได้ แต่ไตรมาส 4/52 ภาพยังไม่ชัด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้บริษัทยังมีกำไรในเกณฑ์ดี แม้ว่ายอดขายรวมทั้งปีจะต่ำกว่าปีที่แล้วราว 15% โดยในปี 51 มียอดขายประมาณ 1,100 กว่าล้านบาท และบริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนปีหน้ายังต้องลุ้นเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าหลัก
SPACK คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/52 ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/52 โดยผลกำไรน่าจะออกมาใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 32 ล้านบาท หรืออาจจะลดลงประมาณ 5% เพราะในช่วงต้นไตรมาสยอดขายยังไม่กระเตื้องมากนักแม้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่ก็เป็นเพียงบางส่วน โดยเพิ่งมาเห็นการฟื้นตัวของยอดขายที่ชัดเจนขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.หลังจากช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ยังไม่มีอะไรดีขึ้น โดยเฉพาะพีซีบอร์ดที่บริษัทเป็นผู้ผลิต
"ไตรมาส 3 ก็ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2 แต่ไม่ได้ดีกว่าเยอะ เพราะโตแบบเครื่องหมายไนกี้(เครื่องหมายถูก)ค่อยๆ สโลปแบบเล็กๆ ยอดขายไตรมาส 3 กระเตื้องขึ้นเป็นตาม seasonal ตาม trend ปีที่แล้ว ไม่ได้ต่ำกว่ามาก ลูกค้าหลักจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กฯ ถุงมือยาง ซึ่งถุงมือยางก็ดีขึ้นแล้ว ปีนี้ถ้าไม่ได้ถุงมือยางยอดขายเราจะน้อยกว่านี้อีก ถุงมือยางดีขึ้น ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าตกเยอะ"นายยุทธ กล่าว
ส่วนสถานการณ์ในไตรมาส 4/52 ยังไม่ชัดเจนว่าการฟื้นตัวจะเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นเหมือนกันหมดในหลายภาคธุรกิจที่ยังมองภาพได้ยาก เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นรูปแบบ V-shape หรือ U-Shape รวมทั้งการคาดการณ์ในปี 53 ด้วย แต่เบื้องต้นมองว่าคงไม่เลวร้ายกว่าปีนี้
"ไตรมาส 4 ยังไม่แน่ใจ ที่ผ่านมาใครพูดอะไรผมไม่ค่อยเชื่อ ไม่ใช่ผมคนเดียว คิดว่าธุรกิจ real sector ทุกคนจะพูดเหมือนกันไม่มีใครกล้าบอกว่าเป็น V-Shape หรือ U-shape...แนวโน้มปีหน้ายังมองไม่ออกแต่คงไม่เลวร้ายกว่าปีนี้ จะเห็นได้จากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทก็กำไรดีกว่าไตรมาส 1 แล้ว เราก็กลับมาเป็นแบบเครื่องหมายไนกี้(เครื่องหมายถูก)"นายยุทธ กล่าว
นายยุทธ กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายในปี 53 ขึ้นอยู่กับยอดขายบมจ.ศรีตรังแอโกรอิสดัสทรี(STA)ซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เนื่องจากในปีนี้ยอดจำหน่ายถุงมือยางของ STA ที่เพิ่มขึ้นมากเพราะผลกระทบจาก H1N1 ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างหนักก็มีผลต่อลูกค้าอาหารทะเลแช่แข็งด้วย ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ของบริษัทลดลง
ทั้งนี้ ในปี 51 สัดส่วนยอดขายจากบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตให้กับกลุ่มถุงมือยางเพิ่มขึ้นเป็น 27% จากเดิมอยู่ในระดับ 22%
"STA เพราะเป็นลูกค้าหลักของเรา ถ้าเขาขายดีเราก็ดีด้วย เนื่องจากปีนี้มีเรื่อง H1N1 เข้ามา ถุงมือยางก็ขายดี แต่ปีหน้าไม่รู้จะมี H1N1 ต่อหรือไม่ หรือมีโรคอื่นขึ้นมา ส่วนชิ้นส่วนอิเล็กฯ ที่บอกฟื้นแล้วก็หวังว่าจะเยอะขึ้น แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เยอะเท่าไร และลูกค้าหลักยังมี canon อีก"นายยุทธ กล่าว
อนึ่ง บล.พัฒนสิน คาดผลประกอบการ STA ในช่วง 3Q09F คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 286 ล้านบาท และคาดว่า 4Q09F จะเท่าทุน ซึ่งนับว่าดีกว่าทุกปีที่มักจะขาดทุน
นายยุทธ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเชื่อว่าจะยังคงจ่ายเงินปันผลได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่จ่าย 0.36 บาท/หุ้น โดยเฉพาะงวดครึ่งหลังปี 51 ที่จ่ายในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท ขณะที่บริษัทได้จ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปี 52 ไปแล้วหุ้นละ 0.20 บาท เพราะกำไรเราจะไม่เก็บจะจ่ายปันผล และปีนี้ไม่ได้มีการลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มเติม ขณะที่ปีหน้าก็ยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม อาจจะลงทุนเล็กน้อยมูลค่าไม่สูงนัก
"ถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องเศรษฐกิจก็อย่าเพิ่งลงทุน เก็บไว้ก่อนดีกว่า ปีนี้ถ้ามีกำไรก็จะจ่าย 80-90% เหมือนเดิมอาจจะเท่าๆ กับปีที่แล้ว...แนวโน้มปีหน้ายังไม่แน่ใจว่าจะลงทุนเพิ่มหรือไม่ อาจจะนิดหน่อยมูลค่าไม่สูง เช่น อุปกรณ์เครื่องจักรที่ถึงเวลาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนเพราะไม่แพงมาก ขณะที่กำลังการผลิตเหลือเฟือยังใช้ไม่เต็มที่"นายยุทธ กล่าว
อนึ่ง SPACK รางานผลประกอบการปี 51 มีกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.36 บาท/หุ้น
*SCC ยังไม่พับแผนซื้อหุ้น SPACK เหตุรอปรับโครงสร้างบริษัท
ส่วนความคืบหน้าของข่าวที่ว่าบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC)จะเจรจาขอซื้อหุ้น SPACK จากกองทุนเพื่อการร่วมทุนนั้น นายยุทธ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้ SCC กำลังปรับโครงสร้างของบริษัทอยู่ เห็นบอกปีนี้ปีหน้าจะเป็น"กบ"กระโดด)ไม่ได้พับแผนไป แต่ก็มีส่งงานเข้ามาให้เราทำ ถือเป็นคู่ค้าที่ดีผสมผสานงานกัน
"ตอนนี้ยังเป็นคู่ค้าที่ดีอยู่ ขณะที่บริษัทก็พยายามหาลูกค้ารายใหม่เข้ามา"นายยุทธ กล่าว