ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 131.95 จุด ขานรับผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 23, 2009 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของสถาบันการเงินและบริษัทในสหรัฐ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยบดบังแรงลบที่เกิดจากตัวเลขจ้างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนด้วย

ดัชนีดาวโจนส์เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พ่งขึ้น 131.95 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 10,081.31 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 11.51 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 1,092.91 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 14.56 จุด หรือ 0.7% แตะที่ 2,165.29 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.3 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับวันพุธที่ 1.4 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกเท่ากับหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 2

อดัม โกลด์ นักวิเคราะห์จากไดเร็กเซียน ฟันด์ ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า ในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะ 531,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งราคาบ้านที่ปรับตัวลดลงเกินคาด

แต่ในช่วงสายตลาดเริ่มดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสถาบันการเงินในสหรัฐ รวมถึงพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป และฟิธเติร์ด แบงคอร์ป รวมทั้งบริษัทอีกหลายแห่ง อาทิ แมคโดนัลด์, เอทีแอนด์ที, 3M และทราเวลเลอร์ส คอส

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปีนี้ของจีนที่ขยายตัว 8.9% รวมทั้งบริษัท วอลมาร์ท สโตเรส ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายว่าจะเพิ่มขึ้น 1-2% ในปีนี้ และ 4-6% ในปีหน้า และบริษัท เจ ครูว์ กรุ๊ป ที่ปรับเพิ่มคาดการร์ผลประกอบการเช่นกัน

นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนก.ย.ซึ่งสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 5.35 ล้านยูนิต

ทั้งนี้ หุ้นวอลมาร์ทปิดลบ 15 เซนต์ แตะที่ 50.48 ดอลลาร์ หุ้นเจ ครูว์ ปิดพุ่ง 15.2% หุ้นอีเบย์ดิ่งลง 4.2% หลังจากอีเบย์เปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 3 ดิ่งลง 29% แตะที่ 349.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 27 เซนต์/หุ้น จากระดับ 492.2 ล้านดอลลาร์ หรือ 38 เซนต์/หุ้นในปีก่อนหน้านี้

หุ้นพีเอ็นซี ไฟแนนเชียล ทะยานขึ้น 12.7% หุ้นฟิธ์เติร์ด แบงคอร์ป ดีดขึ้น 6.8% หุ้น 3M พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นเอทีแอนด์ที ปิดบวก 0.6% และหุ้นแมคโดนัลด์ปิดบวก 2%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ