"โกลเบล็ก"แนะทยอยซื้อทองรับตรุษจีนเชื่อแนวโน้มขาขึ้น/ตลาดหุ้นส่อผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 24, 2009 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาคภูมิ ภาคย์วิศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะนี้จนถึงช่วงปลายปียังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมีการอ่อนตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีการฟื้นตัว ซึ่งมองว่ายังเป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อขาย เนื่องจากโดยปกติไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีความต้องการของทองคำเข้ามาจำนวนมาก

"แม้ราคาทองทั้งในประเทศ และต่างประเทศในขณะนี้จะมีการปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2551 หรือเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หากประเมินตามแนวโน้มของราคาในปัจจุบันถือว่ายังสามารถเข้าซื้อได้ เพราะปกติช่วงไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปีจะมีความต้องการเข้ามามาก จากเทศกาลตรุษจีนที่ต้องยอมรับว่าราคาทองในขณะนั้นอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับทั้งนักลงทุนที่ซื้อเพื่อออม และเพื่อทำกำไรอย่างแน่นอน" นายภาคภูมิ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาทองในตลาดโลกช่วงปลายปี 2551 อยู่ในระดับ 880 ดอลล่าร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ในระดับ 14,250 บาท ขณะที่ปัจจุบันราคาทองในประเทศอยู่ที่ระดับ 16,800บาท/บาททอง ส่วนราคาทองในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 1057.40 ดอลล่าร์/ออนซ์

นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า การซื้อขายทองคำถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยสัดส่วนที่นักลงทุนควรลงทุนน่าจะอยู่ในระดับ 10-15% ของพอร์ตการลงทุน โดยการซื้อขายทองของโกลเบล็กจะอิงตามราคาทองคำในตลาดโลกที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายทองคำได้ดีกว่าการอิงตามราคาทองในประเทศเป็นหลัก

ด้านนายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นในขณะนี้ยังคงอยู่ในทิศทางที่ผันผวน เนื่องจากปัจจัยลบภายในประเทศ อาทิ การเมืองที่ยังคงไม่มีเสถียรภาพ ประกอบกับการเข้าตรวจสอบ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดกรณีการปล่อยข่าวลือในตลาดหุ้น ยังคงเป็นคงตัวเป็นแปรหลักที่สำคัญที่เข้ามาฉุดให้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมในตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจากความไม่เชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุน ซึ่งจะทำให้เกิดการชะลอการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน หากตลาดหุ้นไทยในขณะนี้จนถึงสิ้นปี2552 ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน โอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจจะหลุดระดับ 700 - 680 จุด ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าหากดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแตะแนวรับที่สำคัญที่ระดับ 680 จุด

ทาง บล.โกลเบล็ก แนะนำให้เข้าไปทยอยซื้อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่จะได้รับอานิสงค์กรณีการเปิดประมูลรถไฟฟ้าในส่วนที่เหลือ ซึ่งทางโกลเบล็กมองว่าภาครัฐบาลจะต้องเร่งสร้างผลงานทางด้านสาธารณูปโภค เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ตามนโยบายไทยเข้มแข็ง โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากกรณีดังกล่าว ได้แก่ CK , ITD และSTEC นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้น PTTEP ที่คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกกว่า25% ซึ่งจะส่งผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ