นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขายหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ในธนาคารสินเอเซีย(ACL) ให้กับธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ICBC) ว่า ขณะนี้ ICBC ยังอยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติจากฝ่ายกำกับดูแลของจีน คาดว่าจะได้รับอนุญาตในช่วงเดือน พ.ย.นี้ จากนั้นคาดว่าในราวเดือน ม.ค.53 ทาง ICBC น่าจะสามารถยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ออฟเฟอร์)หุ้น ACL เป็นการทั่วไปได้
ทั้งนี้ หลังจาก ICBC ได้รับการอนุมัติแล้ว ICBC จะเสนอเจตนาการซื้อหุ้นมายังประเทศไทย ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการซื้อขายหุ้น โดย ICBC จะยื่นเรื่องมายังกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในการขอผ่อนผันการเข้ามาถือหุ้นของต่างชาติ หลังจากนั้นคาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการตั้งโต๊ะเทนเดอร์ออฟเฟอร์ได้
รมว.คลัง ยอมรับว่า ราคาที่ ICBC ได้มีข้อตกลงซื้อหุ้น ACL จากธนาคารกรุงเทพ(BBL)ที่หุ้นละ 11.50 บาท ถือเป็นราคาที่กระทรวงการคลังรับได้ แต่ยังขอสงวนท่าทีในการขายหุ้น เนื่องจากการตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นเป็นกระบวนการที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายอื่นสามารถเสนอเงื่อนไขในการซื้อหุ้นได้ด้วยเช่นกัน
"ในการประชุมอาเซียนที่หัวหิน ได้หารือกับ รมว.คลังของจีน ซึ่งได้ยืนยันว่าการตัดสินใจซื้อหุ้น ACL ของ ICBC ที่เป็นธนาคารใหญ่สุดของจีน ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลจีนที่ต้องการเชื่อมโยงธุรกิจในประเทศไทย"รมว.คลัง กล่าว
รมว.คลัง กล่าวย้ำว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายชัดเจนที่จะขายหุ้นที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ออกไป โดยขณะนี้มีความชัดเจนในการขายหุ้น ACL ที่ถืออยู่ ขณะที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินก็กำลังเตรียมพิจารณาขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทย (SCIB)เช่นกัน ซึ่งกระทรวงการคลังสนับสนุนนตามข้อเสนอในการขายหุ้น SCIB และขณะนี้ได้มีการคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) เพื่อให้คำเสนอแนะการขายหุ้นที่เหมาะสมแล้ว
ส่วนการขายหุ้นธนาคารทหารไทย(TMB) ที่กระทรวงการคลังถืออยู่ให้กับกลุ่ม ING เพิ่มเติมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากกลุ่ม ING แต่อย่างใด
"การขายหุ้น TMB เพิ่มให้ ING ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา มีเพียงล่าสุดที่ ING พร้อมที่จะเปลี่ยนการส่งตัวแทนเป็นประธานกรรมการ มาเป็น ประธานกรรมการบริหาร และให้คลังส่งตัวแทนเป็นประธานกรรมการ ซึ่งต้องรอให้ท่านปลัดฯเสนอรายชื่อมา...เรามีนโยบายที่จะขายหุ้นที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ออก แต่เราก็ไม่ได้มีนโยบายเร่ขายหุ้น" รมว.คลัง กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระทรงการคลังยังยืนยันที่คงสัดส่วนหุ้นในธนาคารกรุงไทย(KTB)ไว้ และยังคงบทบาทธนาคารพาณิชย์ที่สนับสนุนสินเชื่อและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล