นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. คาดว่าในปี 53 ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยจะลดงจากประมาณการที่ 3 แสนล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากยังไม่สามารถรับรู้รายได้จากแหล่งมอนทารา โดยคาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/53 แต่บริษัทก็พยายามจะหาแหล่งอื่นมาเพิ่มเติมรายได้ทดแทนแหล่งมอนทารา
"ในปี 53 เราคาคาดว่าปริมาณขายอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน หลังแหล่งมอนทาราผลิตเชิงพาณิชย์ได้ช้ากว่ากำหนด แต่ก็พยายามจะหาแหล่งอื่นมาทดแทน แต่ก็ยังถือว่าปีหน้าเป็นปีที่ดีของ ปตท.สผ. เพราะจะมีรายได้เพิ่มจากแหล่ง JDA มอนทารา และคาดว่าปริมาณการขายจะ growth ไม่น้อยกว่า 10% จากปี 52" นายอนนต์ กล่าว
สำหรับแหล่ง โอลิเวอร์ ที่บริษัทเพิ่งเข้าซื้อนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าวว่า การเข้าซื้อครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเห็นศักยภาพในการพัฒนา Floating LNG (FLNG) โดยราคาที่เช้าซื้อ ใช้เงินเพียง 35 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากแหล่งโอลิเวอร์ไม่มีการขุดเจาะและสำรวจ ประกอบกับ ธุรกิจ Floating LNG ผู้ประกอบการรายอื่นไม่ค่อยสนใจลงทุนมากนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะได้แหล่งโอลิเวอร์ มาต่อยอดธุรกิจ Floating LNG แต่บริษัทยังคงแผนจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ Floating LNG ในปี 57 ตามแผนเดิม เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่
หลังจากนี้บริษัทยังเห็นศักยภาพ ในแหล่งปิโตรเลียมในออสเตรเลีย หากมีโอกาสพร้อมลงทุนเพิ่ม
"หลังได้แหล่งโอลิเวอร์มาก บริษัทก็ยังพร้อมลงทุนในออสเตรเลีย หากแหล่งใดมีศักยภาพ และมีโอกาสลงทุน รวมทั้งราคาน่าสนใจ เราก็จะลงทุนเพิ่ม" นายอนนต์ กล่าว
นายอนนต์ กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาการรั่วไหลปิโตรเลียมที่แหล่งมอนทารานั้นว่า จากปัญหาดังกล่าวคาดว่าจะทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่บันทึกในไตรมาส 3/52 แต่เชื่อว่าบริษัทจะได้รับเงินจากการเคลมประกันเข้ามาชดเชยในไตรมาส 4/52 ดังนั้นคาดว่า ปัญหาดังกล่าวจะไม่ส่งกระทบต่อผลประกอบการปี 52