ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายหุ้นพลังงานฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 104.22 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 27, 2009 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านและกลุ่มการเงินดิ่งลงหลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐอาจชะลอโครงการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้าน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลง 104.22 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 9,867.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 12.65 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 1,066.95 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 12.62 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 2,141.85 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.39 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.34 พันล้านหุ้น

ริชาร์ด รอส นักวิเคราะห์จากบริษัท ออร์บาช เกรย์สัน ในนิวยอร์ก กล่าวกับเอพีว่า หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง รวมถึงหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 1.82 ดอลลาร์ แตะที่ 78.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน

หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงหลังจากนายดิค โบฟ นักวิเคราะห์ชื่อดังในแวดวงการเงินปรับลดน้ำหนักความน่าลงทนุของหุ้นธนาคาร รวมถึงหุ้นฟิธเติร์ด แบงคอร์ป ที่ร่วงลง 7.9% หุ้นซันทรัสต์แบงค์ ดิ่งลง 5.4% และหุ้นยูเอสแบงคอร์ป ร่วงลง 7.9%

นอกจากนี้หุ้นกลุ่มการเงินถูกเทขายหลังจากมีข่าวว่า บริษัท แคพมาร์ค ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทไฟแนนซ์ในเครือของโกลด์แมน แซคส์ และ เคเคอาร์ แอนด์ โค ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากศาลล้มละลาย หลังจากขาดทุนไตรมาส 2 สูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์

แคพมาร์ค ไฟแนนเชียล เป็นหนึ่งใน 43 บริษัทที่ยื่นหนังสือต่อศาลล้มละลายในรัฐเดลาแวร์ของสหรัฐ ตามกฎหมายมาตรา 11 แห่งราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกา โดยแคพมาร์ค ไฟแนนเชียล ระบุในรายงานว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย.2552 บริษัทมีหนี้สิน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และทรัพย์สิน 2.01 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัท มาร์เวลล์ เทคโนโลยี ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยจำกัดการร่วงลงของดัชนี Nasdaq โดยหุ้นมาร์เวลล์ปิดพุ่ง 2.8% และหุ้นเรดิโอแชคปิดบวก 15.9%

แอนดรู สมิธเทอร์ส นักวิเคราะห์ชื่อดังของสหรัฐคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มร่วงลงหลังจากธนาคารกลางในหลายประเทศชะลอการใช้มาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ ซึ่งเป็นเหตุให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกล่าวว่า ราคาหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ในระดับสูงกว่าราคาตลาดที่เป็นธรรม (fair market value) อยู่ราว 40% นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย.ที่เฟดจะเปิดเผยในวันจันทร์ รวมถึงราคาบ้านเดือนส.ค.ที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนส.ค.ในวันอังคาร และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ