นายสุรินทร์ กฤตยาพงษ์พันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บมจ.บีอีซีเวิลด์(BEC)กล่าวว่า บริษัทรับข้อเสนอโมเดลการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับ บมจ.อสมท(MCOT)ที่เป็นข้อสรุปจากการหารือเย็นวานนี้ 2 รูปแบบ เพื่อแลกกับการต่อสัญญาสัมปทานระยะเวลา 10 ปี โดยจะศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสียของแต่ละโมเดลก่อนจะมีข้อสรุปว่าจะเลือกแบบใด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
สำหรับ โมเดลที่ทาง MCOT เสนอมา ได้แก่ โมเดลแรก เป็นการจ่ายเงินส่วนแบ่ง 6.5% ของรายได้ตลอดอายุสัมปทาน และ โมเดลที่ 2 คือการจ่ายเงินให้เปล่าตายตัว 300-600 ล้านบาท
"ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษา คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 รูปแบบ"นายสุรินทร์ กล่าว
นายสุรินทร์ กล่าวว่า จากการประเมินในเบื้องต้น โมเดลแรก การจ่ายส่วนแบ่ง 6.5% ของรายได้ มีข้อดี คือ อายุสัญญาสัมปทาน 10 ปีนับจากปี 53 เป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน ธุรกิจฟรีทีวีก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งการจ่ายส่วนแบ่งก็จะผันแปรตามพื้นฐานรายได้ที่แท้จริง ก็น่าจะส่งผลประโยชน์ต่อช่อง 3
อีกทั้งสัมปทานดังกล่าวก็เป็นการเซ็นสัญญาภายใต้ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ดังนั้น ก็จะเป็นการคิดส่วนแบ่งจากรายได้ของบางกอกฯ แต่รายได้ที่เกิดจากธุรกิจอื่น ไม่ว่าจะเป็นของ BEC หรือ บมจ.บีอีซี-เทโร เอนเตอร์เทนเม้นท์ ก็ถือว่าไม่รวมที่จะต้องนำมาคิดส่วนแบ่งรายได้
ขณะที่โมเดลการจ่ายเงินส่วนแบ่งตายตัว 300-600 ล้านบาทนั้น นายสุรินทร์ กล่าวว่า อาจจะมีข้อดีต่อผู้รับค่าสัมปทานหรือทาง MCOT ที่จะได้รับเงินแน่นอนตายตัว ไม่ว่าธุรกิจของทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จะดีหรือไม่ แต่หากธุรกิจทีวีสร้างรายได้สูงมากกว่าคาดก็จะเป็นผลดีต่อฝ่ายผู้จ่ายค่าสัมปทาน
"สิ้นเดือนนี้คงไม่ทันที่จะได้ข้อสรุปเพราะเหลืออีกแค่ 2-3 วัน บริษัทคงต้องใช้เวลาในการศึกษา และจะไม่มีการนัดเจรจากันแล้ว หากเลือกว่าจะใช้รูปแบบไหนก็จะแจ้งไปยังทาง อสมท และระบุในสัญญา ก็จะถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการ ไม่น่าจะมีปัญหาที่เราจะต้องมานั่งคุยกันอีก เพราะข้อเสนอที่ให้มาทางช่อง 3 ก็ยินดีปฏิบัติอยู่แล้ว"นายสุรินทร์ กล่าว