นักลงทุนรายใหญ่สะท้อนความรู้สึกกลุ่มคนเล่นหุ้น Daily Trade กังวลหนักกลัวถูกเหวี่ยงแห หลังจากมีข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เรียก"เสี่ยยักษ์"-"หมอยง"ไปสอบกรณีที่มีการปล่อยข่าวลือทุบตลาดหุ้นร่วงแรงช่วง 14-15 ต.ค.ที่ผ่านมา ห่วงพวกเทกระเป๋าเข้าเก็บหุ้นช่วงตกหนักหรือทำช็อตเซลจะถูกโยนเป็นแพะ ระบุนักลงทุนซื้อขายทำกำไรเป็นสิทธิตามปกติ
"ทำไมถึงเจาะจงเรียกเสี่ยยักษ์กับหมอยงไปสอบ ทำอย่างนี้ก็ทำให้นักลงทุนรายใหญ่ พวก daily trade กลัวกันหมด หรือพวกที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ทุกวันก็จะกลัว หรือแม้แต่พวกที่ลงทุนระยะกลาง-สั้นก็จะกลัว"นายชาญ เลิศประเสริฐภากร หรือ"เสี่ยชาญ"นักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"
*รู้สึกอย่างไรกับข่าว"เสี่ยยักษ์-หมอยง"โดนดีเอสไอเรียกไปสอบ
"ก็ต้องดูว่าเขาสอบประเด็นอะไร ถ้าเป็นประเด็นข่าวลือ ก็ต้องดูว่าเขาเป็นคนลือหรือเปล่า เขาเป็นคนปล่อยข่าวลือหรือเปล่า ถ้าคนอื่นเขาปล่อยข่าว แล้วพวกนี้ถือจังหวะว่าหุ้นมันขึ้น-ลงเขาซื้อขายเอากำไร มันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ เพราะเขาซื้อขายหุ้นอยู่ทุกวัน ถ้ามีช่วงจังหวะทำกำไรหุ้นได้ ก็ต้องเอา เพราะเวลาที่เขาขาดทุน ไม่มีใครมาถามว่า...เฮ้ยขาดทุนเพราะอะไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม
ไม่รู้สิ ต้องดูว่าเหตุผลเขาเป็นอย่างไร อย่างเช่น วอลุ่มเขาผิดปกติ หรือกระแสเงินเขาผิดปกติ หรือว่า ช็อตเซลในตัวเดียวกัน หรือว่ามีข่าวอินไซต์หรือเปล่า สมมติว่าบริษัท XYZ ตัวนี้ ปกติไม่ได้มีวอลุ่มอะไรเท่าไร แล้วอยู่ ๆ มาวันนั้นเช้ามาขายทิ้งเป็นกอง เป็นกระสอบ พอลงมาก็เข้าไปเก็บกลับเข้ามา ก็เป็นไปได้ว่าเขามีอินไซต์อะไรหรือเปล่า
แต่ว่าพวกที่ซื้อขายปกติทุกวัน อย่างผมเนี่ย อยู่ ๆ หุ้นมันร่วงลงมาปึง...มันก็คงจะไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ ถ้ามันลงลึกจนผิดปกติเราก็ต้องเก็บแล้ว ของถูก ซื้อของถูก ถูกไหม เพราะว่าลักษณะการซื้อขายหุ้นของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน คนที่ซื้อมาร์จินหรือไม่ซื้อมาร์จินมันต่างกัน"
*โดยส่วนตัวมีลักษณะการเทรดหุ้นอย่างไร
"ถ้าอย่างของผม ผมไม่ชอบซื้อมาร์จิน ผมชอบซื้อเงินสด ถ้ามันลงมาถูกผมก็เก็บ ถ้ามันลงไปต่อ ผมก็ถือต่อ ก็ไม่เป็นไร ผมไม่เดือดร้อน เราไม่ได้ซื้อมาร์จิน พอมันขึ้นไปปั๊บ พอมีกำไร เราก็ขายทิ้งเอากำไรแล้ว
ผมก็ชอบซื้อหุ้นเวลาที่มัน panic ลงมาเยอะ ๆ อย่างนี้ เราไม่ได้ซื้อมาร์จิน ถ้าเราซื้อมาร์จินก็ต้องวิ่งหนีมัน หรือเราก็ต้องประคองของเราว่าจะโดนช็อตหรือเปล่า แต่ถ้าเราไม่ได้ซื้อมาร์จิน แล้วพอหุ้นลงไปลึก ๆ มันก็เป็นโอกาสของเราที่จะซื้อของถูก อย่างหุ้นบางตัว บางทีเราอยากได้ของ แล้วไป bid ให้ตายก็ไม่ได้ของ พอ panic หุ้นรูดลงไปแล้วเราไม่เก็บ มันก็ไม่ใช่แล้ว ถ้าเผื่อเราเก็บแล้วไปหาว่าเราผิดปกติ มันผิดปกติตรงไหน
ปัจจุบันผมมีอยู่ 4-5 บัญชี ก็ไม่รู้ว่าพอร์ตมีมูลค่าเท่าไร ยังไม่ได้คิด ผมก็สนใจซื้อหุ้นทุกตัวในตลาดอยู่แล้ว ขอให้มัน panic ตกลงมาเถอะ พอมัน panic ลงมาผมก็ซื้อ ถ้ามันหาย panic ก็ขายทำกำไร ผมก็เล่นหุ้นมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว
*ช่วงนี้ยังเทรดหุ้นอยู่หรือเปล่า
"ช่วงนี้ผมก็หยุดเทรดหุ้นไปชั่วคราวก่อน คือหุ้นบางตัวของผมก็ติดไว้เยอะแล้ว และช่วงปลายปีแล้วผมก็อยากจะเช็คพอร์ตของผม และบางตัวที่มันลงลึกจริง ๆ ผมก็เก็บ เป็นประโยชน์กับเรา แต่ถ้าเป็นตัวธรรมดาปกติ จะซื้อขายเมื่อไรก็ได้ มันก็เฉย ๆ หุ้นบางตัวพอซื้อมาแล้วมีกำไรเราก็ขาย เดี๋ยวมันลงก็ค่อยซื้อใหม่ ผมเป็นพ่อค้านิ... มันดูแล้วไม่มีอะไรหวือหวา การเมืองก็ยังไม่นิ่ง ไม่รู้จะไปทิศทางไหน ใช่ไหม..."
*"เสี่ยปู่"ยันไม่โดนดีเอสไอเรียกคุย
ด้านนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ "เสี่ยปู่" นักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า "ผมไม่ทราบเรื่องเลยครับ และตัวผมเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ อีกทั้งก็ไม่ได้โดนดีเอสไอเรียกไปคุยด้วย"
*หลังจากมีข่าวแล้วรายใหญ่ยังเข้าเทรดตามปกติหรือไม่
"เรื่องที่นักลงทุนรายใหญ่มีการชะลอการลงทุนไปในช่วงนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าหุ้นมันขึ้นมาเยอะ พอหลัง ๆ Foreign ขาย เพราะตลาดต่างประเทศกำลังปรับฐาน ผมก็คิดว่าที่เขาชะลอการลงทุน เพราะเขากลัวตลาดฯมากกว่า"
*ช่วงนี้มีกลยุทธการลงทุนอย่างไร
"เราถือหุ้นส่วนใหญ่จะเป็น long term อยู่แล้ว ในการเปลี่ยนแปลงในช่วงสั้นเราก็ไม่ค่อยได้ดูเท่าไร ตอนนี้ก็ระวังการลงทุนเผื่อตลาดฯปรับตัว ซึ่งตอนนี้ชะลอลงทุนไปก่อน รอจนกว่า P/E ของหุ้นจะต่ำ และมีการจ่ายเงินปันผลเกิน 10% ผมว่าก็น่าสนใจ ซึ่งผมก็จะดูหุ้นเป็นรายตัว ที่สนใจในตอนนี้ก็เห็นจะเป็นหุ้น LPN และ CPF ทั้งสองตัวนี้พื้นฐานดี และตอนนี้ก็ดูว่า P/E ยังต่ำอยู่ทั้งสองตัว ปันผลก็ค่อนข้างดี
นอกนั้น ก็เป็นหุ้นที่ลงทุนมานานแล้วอย่าง SIS ผมก็ถือลงทุนมานานแล้ว และ P/E ก็ยังไม่สูงแค่ 6-7 เท่า ก็คิดว่าจะถือลงทุนยาว ส่วนแผนการลงทุนปกตินี้ ถ้าหุ้นลงมาถูก ๆ ผมก็จะซื้อเพิ่ม แต่ถ้ามันขึ้นมาถึงเป้าของเราแล้วก็จะลดพอร์ตตัวนั้นลงไป เราจะเลือกตัวที่ดีที่สุด และก็จะถือยาว ส่วนใหญ่จะเล่นหุ้นพื้นฐาน"