ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังจากบริษัท อินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ คอร์ป (ไอบีเอ็ม) ปรับเพิ่มแผนการซื้อหุ้น และสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดลบหลังจากบริษัท ไป่ตู้ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจิ้นรายใหญ่ที่สุดของจีนคาดการณ์ยอดขายที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 14.21 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 9,882.17 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.54 จุด หรือ 0.33% แตะที่ 1,063.41 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 25.76 จุด หรือ 1.20% แตะที่ 2,116.09 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.40 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.42 พันล้านหุ้น
เดฟ ฮินเนนแคมป์ นักวิเคราะห์จากเคดีวี เวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวกับเอพีว่า ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นหลังจากสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์/เคส-ชิลเลอร์ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนส.ค.ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และไอบีเอ็มปรับเพิ่มแผนการซื้อหุ้นเป็น 9.2 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดถูกสกัดลงหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด องค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ดิ่งลงแตะระดับ 47.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 53.1 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงาน
กระทรวงแรงงานสหรัฐว่า จำนวนคนตกงานในสหรัฐมีสูงถึง 7.2 ล้านคนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.ปี 2550 และอัตราว่างงานในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.8%
นักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่าธนาคารกลางอินเดียเริ่มถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มการสำรองสภาพคล่อง 25% จากเดิม 24% หลังจากปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็น 6.5% จากเดิม 5% ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้
ทั้งนี้ หุ้นไอบีเอ็มดีดตัวขึ้น 0.5% ส่วนราคาหุ้น American Depositary ของบริษัท ไป่ตู้ ดิ่งลง 11.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่พุ่งขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.11% แตะที่ 79.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. ส่วนวันพฤหัสบดี จะรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
วันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 3 และรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย. ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.