นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. สตาร์ ซานิทารีแวร์ (STAR) คาดว่าผลประกอบการตั้งแต่ไตรมาส 3/52 เป็นต้นไปจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากสามารถลดต้นทุนเรื่องราคาพลังงานลงไปได้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นช่วยให้ต้นทุนลดลงระดับหนึ่ง สะท้อนให้อัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin:GP)ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 45% ได้สำเร็จจากปี 51 ที่ทำได้ 40%
"ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป อาจจะได้เห็นผลประกอบการของ STAR เติบโตแบบบิ๊กเซอร์ไพร้ส์ได้อีกครั้ง เพราะตลาดยุโรปเริ่มฟื้นตัว ได้รับผลดีจากค่าพลังงานลดลงและ Economic of scale จากการออกสินค้าใหม่ ทำให้มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโรงงานการผลิตของเราสามารถรอบรับได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตเพียง 75% เท่านั้น จึงสามารถรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นได้" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวว่า หลังจากนี้จะมุ่งขยายตลาดในประเทศไทยอย่างเข้มข้นขึ้น หลังจากที่พบว่าลูกค้าตอบรับกับภาพลักษณ์สินค้าระดับกลางบนค่อนข้างดี โดยใช้จุดเด่นที่สินค้าสุขภัณฑ์ Star เป็นสินค้าที่ผลิตภายใต้มาตรฐานสากล สามารถจำหน่ายได้ทุกตลาดทั่วโลก จัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคชาวไทยในราคายุติธรรม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่วางตลาดแล้วประมาณ 3-4 ชุด
ในปี 53 เตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4-5 ชุดในกลุ่มราคาระดับกลางบน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของ Star ในกลุ่มตลาดนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน เพราะราคาอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพของสินค้า
ส่วนตลาดส่งออกในต่างประเทศ เขากล่าวว่า ยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีและมีคำสั่งซื้อสินค้า(ออเดอร์)เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ของปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้รายได้กลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่ง