ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ดิ่ง 119.48 จุด หลังยอดขายบ้านสหรัฐร่วงเหนือความคาดหมาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 29, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 119.48 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 9,762.69 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 20.78 จุด หรือ 1.95% ปิดที่ 1,042.63 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 56.48 จุด หรือ 2.67% ปิดที่ 2,059.61 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.68 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 9 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.75 พันล้านหุ้น

แมนนี เวนทร็อบ นักวิเคราะห์จากบริษัท Integre Advisors ในนิวยอร์กกล่าวกับเอพีว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 100 จุดหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ดิ่งลง 3.6% แตะที่ 402,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% แตะระดับ 440,000 ยูนิต/ปี

นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐจะได้รับแรงหนุนจากโครงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 8,000 ดอลลาร์แก่ผู้ที่ซื้อบ้านครั้งแรก ซึ่งโครงการดังกล่าวช่วยหนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้สหรัฐรายงานว่าตัวเลขสร้างบ้านเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.5% แตะที่ 590,000 ยูนิตในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังรวงลงหลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ โดยคาดว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 จะขยายตัวเพียง 2.7% ต่อปี ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3% โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐมีกำหนดจะรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ในคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี จะมีการรายงานจีดีพีไตรมาส 3 และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์จะมีการรายงานรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย.และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.

คณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเรียกร้องให้สถาบันการเงินรายใหญ่ที่มีสินทรัพย์จดทะเบียนมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ร่วมแบกภาระต้นทุนเมื่อรัฐบาลเข้าเทคโอเวอร์สถาบันการเงินกลุ่มที่ถูกระบุว่า "หากปล่อยให้ล้มละลายก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั้งระบบ" หรือ "too big to fail" และมีมติด้วยการลงคะแนนเสียง 67 ต่อ 1 ให้ผ่านร่างฎหมายที่กำหนดให้กลุ่มเฮด์ฟันด์เข้าจดทะเบียนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC)

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงหลังราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ แตะที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ปิดร่วง 4.1% ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงตามยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยหุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ปิดร่วง 5.5%

หุ้นกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ ปิดร่วงลง 19.6% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ารายได้จากการดำเนินงานในอเมริกาเหนือจะลดลงในไตรมาส 4


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ