ตลาดหุ้นในเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าเช้านี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับหุ้นของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ปที่ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียยังคงเปราะบาง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,941.57 จุด ลดลง 133.48 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,290.09 จุด ลบ 471.49 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนร่วง 1.85% แตะ 2,975.20 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,417.13 ลบ 116.82 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,584.52 จุด ลดลง 25.19 จุด สำหรับดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,653.20 จุด ลดลง 31.90 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,607.42 ลบ 41.56 จุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific Index อ่อนตัว 0.8% แตะ 115.43 จุด เมื่อเวลา 10.27 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นเอเอ็นแซท แบงค์ของออสเตรเลีย ร่วง 2% ในตลาดหุ้นออสเตรเลียหลังจากบริษัทรายงานตัวเลขรายได้ต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่หุ้นแอ็ดแวนเทสท์ คอร์ป ดิ่ง 4.5% หลังจากที่คำสั่งซื้อหดและทำให้บริษัทขาดทุนมากขึ้น ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 3% หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกลง
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.63% ปิดที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.23-79.83 ดอลลาร์
เนเดอร์ ไนอิมิ นักวิเคราะห์ของเอเอ็มพี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจว่าจะปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ และจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนหรือไม่หลังจากผลพวงจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มลดลง