นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส(ADVANC)เชื่อว่าการเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการ 3G คงจะเลื่อนออกไปเป็นต้นปี 53 จากเดิมที่คณะกรรมการประกอบกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)กำหนดไว้ภายในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันกระบวนการประมูลล่าช้ากว่าแผนมาประมาณ 1 เดือนแล้ว และยังต้องรอผลประชาพิจารณ์รอบ 2 กลางเดือนพ.ย.อีก
อย่างไรก็ตาม ทาง ADVANC ยังยืนยันว่าจะเสนอให้ขยายอายุใบอนูญาต 3G เพิ่มเป็น 25 ปี จากที่กำหนดไว้ 15 ปี และคาดว่าหากได้ใบอนุญาตบริษัทจะสามารถลดต้นทุนด้านสัมปทานได้ 19% โดยจะจ่ายค่าสัมปทานเหลือเพียง 6% จากเดิมที่จ่าย 25% แต่ยังไม่รวมต้นทุนด้านโครงข่ายที่บริษัทต้องลงทุนเพิ่มจำนวนมาก และขณะนี้อายุสัญญาสัมปทานเดิมที่ทำกับ บมจ.ทีโอที ก็ยังไม่หมดลง ดังนั้น บริษัทก็ยังคงจ่ายค่าสัมปทานให้ทีโอทีต่อไป เพราะยังต้องใช้โครงข่ายเดิมอยู่
นายวิเชียร กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/52 ในสัปดาห์หน้า ดังนั้น ขณะนี้จึงไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/52 น่าจะออกมาดีขึ้น เพราะปกติเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมอยู่แล้ว
"คิดว่าการประมูล 3G คงต้องไปเห็นปีหน้าเลย เพราะช่วงคริสมาสต์ฝรั่งคงไม่ทำงานกันแล้ว และแผนงานของ กทช.ก็ล่าช้ามาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นการเปิดประมูลคงไม่ทันช่วงกลางเดือน ธ.ค. แต่ผมก็อยากให้ 3G เกิดเร็วที่สุด"นายวิเชียร กล่าว
สำหรับวิธีการประมูลนั้น นายวิเชียร กล่าวว่า ถือว่าเป็นวิธีที่ก่อประโยชน์กับทุกฝ่ายและโปร่งใสที่สุดสำหรับ กทช. ซึ่งเอไอเอส พร้อมที่จะสู้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ากำหนดราคาสูงสุดไว้ที่เท่าไหร่ ซึ่งบริษัทยืนยันว่าผู้ประกอบการคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคและรูปแบบของการให้บริการยังจะมีให้เลือกทั้งแบบวอยซ์และนอนวอยซ์ ซึ่งปกติราคาที่ใช้บริการ 2G ของไทยถือว่าถูกมากเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของโลก